บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 6 ต.ค.64 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ โดยภาคเช้าปิดตลาดในแดนบวกจากแรงหนุนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี จากอานิสงส์การปรับขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งหุ้นกลุ่มถ่านหินที่ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินทำจุดสูงสุดใหม่ จากนั้นช่วงบ่ายนักลงทุนทยอยขายออกเพื่อทำกำไร ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,619.48 จุด ลดลง 4.76 จุด หรือ 0.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97,659.10 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 550.85 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด หรือ 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5,298.84 ล้านบาท
รายงานข่าวจาก บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า กรอบดัชนีหุ้นไทยเดือน ต.ค.64 คาดว่าอยู่ที่ 1,580-1,660 จุด โดยแกว่งตัวบริเวณแนวรับ 1,600 จุด ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งจะไม่รุนแรงเท่ากับปี 54 และหากเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ตลาดจะแกว่งตัวในแดนบวกได้ในระยะถัดไป ส่วนประเด็นการเริ่มลดคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่ากระทบกับตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด เพราะต่างชาติไม่ได้ซื้อสุทธิหุ้นไทยแล้ว ด้านปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามพัฒนาการเชิงบวก ด้านวัคซีนและการคลายล็อกดาวน์ในประเทศมากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักมากขึ้น
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.บ้านปู ปิดที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
2.เอสวีที ปิดที่ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท
3.ทรู ปิดที่ 4.06 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4.ปูนซิเมนต์ไทย ปิดที่ 395.00 บาท ลดลง -7.00 บาท
5.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง -1.50 บาท