สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า ก่อนหน้าการรายงานพบผู้ป่วยคนที่ 3 สหรัฐมีผู้ป่วย 2 รายที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช5 เอ็น1 อยู่ในรัฐเทกซัส และรัฐมิชิแกน ซึ่งทั้งคู่เป็นคนงานในฟาร์มโคนมที่มีอาการเพียงเล็กน้อย และหายดีแล้ว

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ป่วยทั้งสามรายได้รับเชื้อไวรัสจากวัว ไม่ใช่กรณีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ซึ่งน่าเป็นห่วงมากกว่า

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สหรัฐตรวจพบไข้หวัดนกชนิดก่อโรครุนแรง (เอชพีเอไอ) สายพันธุ์เอช5 เอ็น1 ในสัตว์มากกว่า 50 สายพันธุ์ในประเทศ ซึ่งรวมถึงโคนมในสหรัฐ ที่มีการตรวจพบตั้งแต่เมื่อ มี.ค. ที่ผ่านมา

อนึ่ง ความแตกต่างระหว่างสหรัฐกับยุโรป คือ เกษตรกรชาวอเมริกันได้รับอนุญาตให้นำมูลไก่บดไปเลี้ยงวัว ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางคน กล่าวว่า สิ่งนี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดนก แม้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์คัดค้านคำกล่าวอ้างข้างต้น และทางการสหรัฐเชื่อว่า นกป่าเป็นสาเหตุที่ทำให้วัวติดเชื้อ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซีดีซี ระบุว่า การประเมินความเสี่ยงสำหรับประชาชนทั่วไป “ยังอยู่ในระดับต่ำ” แต่คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น พร้อมกับแนะนำว่า นอกจากการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ป่วยหรือตายแล้ว ไม่ว่าจะเป็น นกป่า, นกที่เลี้ยงในบ้าน และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ รวมถึงมูลสัตว์, วัสดุรองนอนของสัตว์ หรือการบริโภคนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์.

เครดิตภาพ : AFP