จากกรณี ปัญหาของ 8 โปรเจกต์ใหญ่ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ที่ จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 545 ล้านบาท ถูก หจก.ประชาพัฒน์-หจก.เฮงนำกิจ ทิ้งงาน ไม่ก่อสร้างเกิดผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน โดย กรมโยธาฯ ได้ยกเลิกสัญญา 6 โครงการ อยู่ระหว่างการตรวจสอบแบบคู่ขนานระหว่าง จังหวัด-คณะกรรมการสอบของ กรมโยธาฯ ที่กำลังพิจารณาจะยกเลิกสัญญาอีก 2 โครงการเร็วๆ นี้ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เร่งรณรงค์สำรวจป้องกันบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง รายงานว่า ภายหลังที่ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่รณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ในจุดก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร พร้อมตรวจสอบปัญหาเพื่อหาแนวทางบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้บรรยากาศความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ภาวะทางอารมณ์ของชาวบ้านเริ่มผ่อนคลาย มีความรู้สึกที่ดีและมีกำลังใจในการประกอบอาชีพอย่างมีความสุข มีความเชื่อมั่นในการดูแลจากผู้บริหารจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

นายปรัชญา ดวงจอมดี นายช่างอาวุโส สำนักโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้แนะแนวทางการสำรวจตรวจสอบปัญหาและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อการแก้ปัญหาที่ถูกจุด ชาวบ้านได้รับความพึงพอใจ เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) นายวิจิตร งามชื่น โยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ติดภารกิจอบรมที่ กทม. ได้มอบหมาย ตนและนายณฐกฤษณ์ โพธิ์ศรี สถาปนิกชำนาญการ สำนักงานโยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ และนางสาวยุพิน พรมหล่อ วิศวกรโยธาชำนาญการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบจุดก่อสร้างฯ 6 โครงการ ในจำนวน 8 โครงการที่ทางกรมโยธาฯ ได้เลิกสัญญาไปแล้ว ตามประกาศเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 67 และ 7 พ.ค. 67 เป็นการตรวจสอบความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรและความเป็นอยู่ของประชาชน ในจุดยกเลิกสัญญา และผู้รับจ้างได้ขนย้ายเครื่องจักรหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว

การตรวจสอบ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ 6 โครงการ คือ (1) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ ถนนพร้อมพรรณอุทิศ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (2) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (3) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (4) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย (5) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ และ (6) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

“การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายคือ อบจ.กาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ที่จะร่วมกันดำเนินการในเร็วๆ นี้ คือขุดลอกรางระบายน้ำบริเวณถนนพร้อมพรรณอุทิศ-ลำน้ำปาว ระยะทาง 700 เมตร เพื่อระบายน้ำที่เอ่อขังลงสู่แหล่งธรรมชาติ ขนย้ายรถแบ๊กโฮที่ผู้รับเหมาจอดทิ้งไว้กีดขวางการจราจรและหน้าบ้าน ร้านค้า ในส่วนบริเวณชุมชนหัวโนนโกเกษตร (ถนน 7 ชั่วโคตร) ที่ชาวบ้านร้องขอคอนกรีตผสมเสร็จ เพื่อคืนสภาพถนนที่เป็นหลุมบ่อ และเป็นแอ่ง น้ำขัง เบื้องต้นจะได้นำแบริเออร์ และเครื่องหมายจราจรไปติดตั้งไว้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ช่วยลดความแรงของอุบัติเหตุ ลดความอันตรายของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างแจ้งแนวทางไปยัง กรมโยธาฯ” นายปรัชญา กล่าว

ด้าน นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ดูสภาพปัญหา และรับรายงานผลการตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร ทำให้ทราบว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างไร และเกิดกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างไร รวมทั้งได้ทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้สรุปผลการตรวจสอบออกมาใน 6 โครงการที่มีผลกระทบ จะเร่งทำการเยียวยาฟื้นฟูสภาพเมืองในทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันจะทำรายงานผลการตรวจสอบส่งไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองทราบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ก่อนที่จะได้ผู้รับจ้างรายใหม่ มาดำเนินการก่อสร้างต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข

ด้าน นายสังวาลย์ การรักษา ผู้ประกอบการร้านอาหาร ถนนพร้อมพรรณอุทิศ กล่าวว่า ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจากสาเหตุผู้รับเหมาทิ้งงาน ทั้งผิวจราจรที่เสียหาย เพราะมีรถแบ๊กโฮมาจอดกีดขวางหน้าร้านนานนับปี หน้างานที่เป็นหลุมลึก มีน้ำเสียเอ่อขัง ส่งกลิ่นเหม็น กองวัสดุเต็มไหล่ทาง ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เกิดมลพิษและบดบังหน้าร้าน ส่งผลให้ลูกค้าไม่เข้ามาใช้บริการ แต่เมื่อผู้ว่าฯ ลงมาดูปัญหา และสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบแก้ไข ตนและชาวบ้านก็ดีใจ ขอเป็นตัวแทนชาวบ้าน ผู้ประกอบการที่เดือดร้อนขอบพระคุณมา ณ ตรงนี้ และขอให้กรมโยธาฯ ได้เร่งพิจารณาดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างคนใหม่เข้ามาทำงานต่อ เพื่อเมืองกาฬสินธุ์จะได้พัฒนาเมืองอย่างเต็มศักยภาพต่อไป.