นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลจำเป็นที่ต้องเข้ามาดูแลในส่วนของน้ำมันดีเซลบี 7 ซึ่งราคาทะลุไปถึง 30 กว่าบาทต่อลิตร แม้เชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้บี 10 แทนบี 7 ซึ่งมีราคาต่ำกว่า 30 บาท แต่ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะยังพบปัญหาทางเทคนิคในการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่ยังใช้บี 7 เหมือนเดิม จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องเข้าไปดูแล เพื่อพยายามผลักดันราคาให้ต่ำกว่า 30 บาทในราคาระดับเดียวกับบี 10 และการดำเนินการครั้งนี้แม้จะปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของดีเซลบี 7 แต่ในขณะนี้เงินกองทุนน้ำมันยังมีอยู่ประมาณหมื่นกว่าล้านบาท และถ้าไม่เพียงพอสามารถกู้ยืมเงินเพื่อมาใช้อีกได้

“สถานการณ์น้ำมันปัจจุบัน ประเมินว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาก๊าซธรรมชาติ แม้ว่าเมื่อวานนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก จะหารือกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาประมาณ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน เพื่อให้ราคาเกิดความคลี่คลายลงบ้าง ซึ่งช่วยได้ส่วนหนึ่งแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งราคาที่เพิ่มขึ้นได้ในขณะนี้ โดยในประเทศไทยเองนั้นรัฐบาลก็ต้องเข้ามาดูแล โดยเฉพาะราคาดีเซลที่ประชาชนใช้กันมาก เพื่อให้ราคาลดลง”