นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กพอ. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ผ่านระบบ Video Conference ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับแผนลงทุนอีอีซีในระยะ 5 ปีข้างหน้า (ปี 2565-69) มีเป้าหมายการลงทุนให้ได้มากกว่าเป้าหมายเดิม จากแผนแรกของอีอีซี (61-65) กำหนดเงินลงทุนไว้ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเกิดเงินลงทุนแล้ว รวม 1,605,241 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94% คาดว่าสิ้นปี 64 จะได้ตามเป้า โดยแผนลงทุนอีอีซีระยะที่ 2 เน้นขับเคลื่อนต่อยอดและเร่งรัดการลงทุนด้วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และวิจัยพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ มีวงเงินลงทุนรวมประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้แผนอีอีซีใน 5 ปีข้างหน้า จะทำให้มูลค่าการลงทุนในอีอีซี เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 5 แสนล้านบาท จากเดิมปีละ 3 แสนล้านบาท ถือเป็นกลไกหลักช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตเต็มศักยภาพ 4.5–5% ต่อปี และยังช่วยบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมส่งผลให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ก้าวสู่ประเทศพัฒนาได้ในปี 72

สำหรับตามแผนการลงทุนรวม 2.2 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1.การต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน 2 แสนล้านบาท จากเมืองการบินภาคตะวันออก การพัฒนาพื้นที่ 30 กม. รอบสนามบิน และพัฒนาพื้นที่รอบสถานีหลักรถไฟความเร็วสูงฯ 2.การดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย ปีละ 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 2 การลงทุนในระดับฐานปกติ ปีละ 2.5 แสนล้านบาท และการลงทุนส่วนเพิ่มที่เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ รวมปีละ 1.5 แสนล้านบาท 3.ยกระดับชุมชนและประชาชน เร่งพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนระดับหมู่บ้าน พัฒนาตลาดสด อี-คอมเมิร์ซ สร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่ม ยกเครื่องการศึกษา สาธารณสุขพื้นฐาน สิ่งแวดล้อมและสาธารณูปโภคที่สะดวกสบายให้ชุมชน  

พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือเอฟ โดยมีผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐจะได้รับจากโครงการฯ เป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อทีอียู โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้าจีพีซี เป็นผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอซองที่ 4 ซึ่งได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐได้รับ เป็นไปตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน และมติ ครม. ที่ได้อนุมัติไว้ จากนี้จะนำเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ พร้อมลงนามสัญญาต่อไป