ไขมันช่องท้องหรือ Visceral fat คือไขมันที่สะสมอยู่ที่ท้อง เป็นเหตุให้ “พุง” ขยายขนาด ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้วยังเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ 

นักโภชนาการเอลิส โฮแมน จากศูนย์โภชนาการมนุษย์แห่งคลินิกคลีฟแลนด์แห่งสหรัฐ อธิบายว่า ไขมันที่อยู่ในช่องท้องหรือ “พุง” ของเรานั้น เกิดขึ้นได้ด้วยหลายปัจจัย เช่น อายุ, พันธุกรรม, พฤติกรรมการนอนหลับ, การออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร 

แจ๊คกี นิวเจนท์ นักกำหนดอาหารและนักเขียนหนังสือ The Plant-Based Diabetes Cookbook ชี้ว่าไขมันในช่องท้องนั้นอยู่ลึกลงไปในชั้นไขมัน และทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ 

แต่โชคยังดีที่มีอาหารบางประเภทสามารถช่วยลดไขมันในช่องท้องได้ 

อาหารประเภทถั่วเป็นอาหารที่มีสารอาหารเข้มข้น ทั้งโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์, ใยอาหาร, วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ โฮแมนอธิบายว่า การรับประทานโปรตีนและใยอาหารให้ได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้น จะช่วยให้รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพได้ เนื่องจากร่างกายจะใช้เวลานานในการย่อยโปรตีนและใยอาหาร ซึ่งทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นาน ไม่หิวบ่อย

นอกจากนี้ การทดแทนอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ ด้วยอาหารประเภทถั่ว ซึ่งมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง จะดีต่อสุขภาพมากกว่า ช่วยลดน้ำหนักและดีต่อสภาพของระบบหลอดเลือดหัวใจ

ด้าน นิวเจนท์ ก็อ้างถึงกรณีศึกษาเมื่อปี 2565 ที่ระบุว่า เพียงแค่รับประทานถั่วครั้งละ 1 ออนซ์  หรือเกือบ 30 กรัม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ก็อาจจะช่วยลดไขมันส่วนเกินที่พุงได้

ตามความเห็นของ นิวเจนท์ แล้ว ถั่วที่ช่วยสลายไขมันที่พุงได้เป็นอันดับ 1 คือ อัลมอนด์ เนื่องจากมีโปรตีนสูงสุด เคยมีรายงานที่วิจัยเรื่องอัลมอนด์โดยเฉพาะคาดว่า เพียงรับประทานอัลมอนด์วันละ 1 ออนซ์ครึ่ง (ราว 42 กรัม) แทนของกินเล่น มีส่วนช่วยลดไขมันในช่องท้องได้

ส่วน โฮแมน ชี้ว่า การรับประทานถั่วให้หลากหลายก็สำคัญ เพราะถั่วแต่ละอย่างก็มีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่า อัลมอนด์ คือตัวเลือกที่ดีมาก ตามมาด้วย เฮเซลนัตและวอลนัต ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเช่นเดียวกับอัลมอนด์

ส่วนถั่ว 3 ชนิดที่ต้องรับประทานอย่างระมัดระวังคือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ถั่วบราซิลและแมคคาเดเมีย เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวสูง กระนั้นก็ไม่จำเป็นต้องงดรับประทานไปเลย เพียงแต่จำกัดปริมาณหรือจับคู่กับถั่วชนิดอื่นที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูงก็ได้

เธอยังแนะนำให้รับประทานถั่วคู่กับอาหารอื่น ๆ ที่เราชอบ เพื่อให้อิ่มท้อง เช่น โรยถั่วใส่โยเกิร์ตกรีก หรือรับประทานคู่กับข้าวโอ๊ตและผลไม้ นอกจากนี้ยังอาจนำถั่วมาบดแล้วผสมกับเนยหรือสเปรดทาหน้าต่าง ๆ และเปลี่ยนจากขนมปังเป็นผลไม้ เช่น กล้วย, แอปเปิลแทน ก็ได้

ที่มา : parade.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES