“โจ ณัฐวุฒิ” จอมเก๋าวัย 34 ปี เล่าถึงความสำเร็จในการเปิดสัมมนามวยไทยที่สหรัฐฯ โดยงานนี้จัดขึ้นที่ “แก่นศักดิ์ มวยไทย ยิม” ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวต่างชาติกว่าครึ่งร้อย แห่เข้าร่วมเรียนรู้ศิลปะมวยไทยจนบัตรขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว
“โจ” ได้รับความนิยมที่สหรัฐฯมากขึ้น
สำหรับ “โจ” กลับมาสร้างชื่อเสียงใน ONE ได้อีกครั้ง จากผลงานสองไฟต์หลัง ที่แพ้คะแนนให้กับ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ในกติกาคิกบ็อกซิ่งอย่างสนุกสุดมัน และล่าสุดคืนฟอร์มเก่งเอาชนะ “ลุค ลิสซีย์” ในศึก ONE Fight Night 17 เมื่อ 9 ธ.ค.66 ทำให้เจ้าตัวได้รับความนิยมจากแฟนคลับทั่วโลกมากขึ้น
“ผมเคยจัดสัมนามวยไทยมาแล้วหลายครั้ง แต่ช่วงหลัง ๆ ชื่อเสียงของผมเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากฟอร์มสองไฟต์หลังสุดที่ทำออกมาได้ดี ผมรู้สึกดีมากที่มีคนรักและชื่นชอบมาร่วมงานจนขายตั๋วหมดเร็วขนาดนี้ และทำให้ผมได้เพื่อนเยอะขึ้นด้วยครับ”
“โจ” ร่วมถ่ายทอดวิชามวยไทยให้กับชาวต่างชาติ
นอกจากมีรายได้เสริมจากมวยไทยที่ตนเองรักได้แล้ว งานนี้ “โจ”ยังได้รับพลังบวกก้อนโตจากแฟนกีฬาชาวต่างชาติ ก่อนเปิดศึกชิงเข็มขัดกับ “ตะวันฉาย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ในศึกใหญ่ ONE 167
“ตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองแอตแลนตา เริ่มทำร่างกายดีขึ้นตามลำดับ ผมดีใจมากเมื่อทราบข่าวว่าจะได้ขึ้นชิงแชมป์กับ ตะวันฉาย เพราะนี่คือรายการคู่มวยไทยที่ใหญ่ที่สุด แฟนกีฬาชาวต่างชาติที่มางานสัมมนาหลายคนก็ให้กำลังใจผม บอกว่าจะรอเชียร์ไฟต์นี้ ผมจะกลับไปซ้อมที่ไทยในช่วงสัปดาห์ก่อนแข่งเพื่อปรับเวลาและสภาพอากาศอีกทีครับ”
“โจ” พร้อมเปิดศึกล้างตาตะวันฉาย
โดยในศึก ONE 167 นอกจาก “โจ vs ตะวันฉาย” แล้ว ยังมี 2 คู่ชูโรงที่แฟนทั่วโลกตั้งตารอ คือการพบกันระหว่าง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลก MMA รุ่นอะตอมเวตหญิง (105 – 115 ป.) ที่จะลงป้องเข็มขัดครั้งแรก จาก “เดนิส แซมโบอันกา” เพื่อนซี้ชาวฟิลิปปินส์ และ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” กลับมาโชว์ลีลาบู๊อีกครั้ง เจอกับ “เดนิส พูริช” จอมดีเดือด ตัวแทนแคนาดา-บอสเนีย ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง Thaiticketmajor.com คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh