จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีเถื่อน พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ภาขี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเนื่องจากอยู่ใกล้หมู่บ้านและชุมชน โดยทาง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้บัญชาการที่เกิดเหตุ ระดมรถดับเพลิง จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เจ้าควบคุมเพลิง โดยใช้โฟมระดมฉีดรอบด้านของโกดังที่เกิดเพลิงไหม้ แสงเพลิงกลุ่มควันลดลง สามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลาม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศ “โรงพยาบาลภาชี” ปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่เกิดเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บสารเคมีของกลาง ลอยไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งห่างประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพ จากการเผาไหม้ของสารเคมี
จากนั้นโรงพยาบาลภาชี ได้เร่งอพยพผู้ป่วย ประมาณ 37 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นยังโรงพยาบาลที่ได้มีการประสานเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย หรือโรงพยาบาลที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด รวมถึงมีการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามและศูนย์อพยพ ที่วัดโคกม่วง ต.โคกม่วง อ.ภาชี เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่ พร้อมรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเตรียมที่นอน หมอน มุ้ง อาหารน้ำดื่ม รวมถึงจัดทีมแทพย์มาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบบางส่วน เดินทางมาอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้แล้ว
ด้าน พระครูพิพัฒน์ ศาสนกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดโคกม่วง เจ้าคณะตำบลภาชี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการประสาน ก็พร้อมเปิดเป็นศูนย์อพยพได้ทันที ซึ่งตอนนี้ก็มีมาแล้วบางส่วน ซึ่งตรงนี้สามารถรับได้เป็นร้อยคน และยังมีอาคารด้านในอีกและโรงเรียน ซึ่งสามารถรองรับได้เรื่อย ๆ ซึ่งประสานวัดในเขตปกครองไว้แล้ว ถ้าไม่เพียงพอหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
ขณะที่ นางวาสนา บัวสมบัติ อายุ 70 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า บ้านตนอยู่ห่างประมาณ 200 เมตร จากโกดัง ทำให้กลุ่มควันเข้าไปในบ้าน จนไม่สามารถพักอาศัยได้ อยากให้ฝ่ายงานเกี่ยวข้อง เร่งดับเพลิงและกำจัดสารเคมีเหล่านี้ออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว.