นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (กอญ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของการดำรงตำแหน่ง กอญ.ทอท. ได้เน้นพัฒนางานบริการผู้โดยสารของ 6 ท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของ ทอท. โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ให้มีประสิทธิภาพ ลดแออัด สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น
เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญในการจัดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลก โดยล่าสุดเว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของสนามบิน ได้ประกาศสนามบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 67 โดย ทสภ. ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 68 ในปี 66 และอันดับที่ 78 ในปี 65
นายกีรติ กล่าวต่อว่า ทอท. ต้องปรับปรุงการให้บริการผู้โดยสารให้ดีเพิ่มขึ้นอีก เพราะขณะนี้ผู้โดยสารยังรู้สึกได้ว่าสนามบินยังแออัด และหนาแน่นอยู่ โดยสิ่งที่ปรับปรุงไปแล้วคือ การเช็กอิน จุดตรวจค้น และจุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
มีการบริหารจัดการ และเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการให้บริการดีขึ้นกว่าเดิม โดยภาพรวมระยะเวลากระบวนการขาออกประมาณ 37 นาทีต่อคน จากเดิมอยู่ที่ 40-50 นาทีต่อคน ขณะที่มาตรฐานสากลอยู่ที่ประมาณ 45 นาทีต่อคน
แม้จะดีขึ้นแต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ว่าต้องอยู่ที่ประมาณ 30 นาทีต่อคน ซึ่ง ทอท. กำลังเร่งแก้ไขปรับปรุงอยู่ โดยเดือน ส.ค. 67 จะเพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Gate) 80 ช่อง รองรับได้ 91 ประเทศ และเพิ่มจุดตรวจค้นอีก 10 ช่อง เพื่อช่วยให้กระบวนการต่างๆ มีความคล่องตัว และรวดเร็วมากขึ้น
นายกีรติ กล่าวอีกว่า ทอท. พยายามจะเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในสนามบินให้แก่ผู้โดยสารมากขึ้น โดยในเดือน มิ.ย. 67 จะเปิดตัวบริการด้านเทคโนโลยีที่ผู้โดยสารสามารถสแกนใบหน้าได้ตั้งแต่ขั้นตอนเช็กอิน และเมื่อผ่านจุดตรวจบัตรโดยสารจะยืนยันตัวตนด้วยภาพหน้าผู้โดยสารได้
เดิมจะเปิดตัวตั้งแต่เดือน เม.ย. 67 แต่ที่ล่าช้าเพราะติดปัญหา PDPA ซึ่งคาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้จะจบทั้งหมด และสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ทั้งที่ ทสภ. และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จะช่วยลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารลงได้
นายกีรติ กล่าวอีกว่า การประเมินจัดอันดับสนามบิน ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากความพึงพอใจในการได้รับบริการของผู้โดยสาร โดยการสุ่มสอบถาม และการโหวตจากผู้โดยสาร ขณะเดียวกันจะดูภาพรวมการให้บริการของสนามบิน ซึ่งจะเดินทางมาประเมินโดยไม่ได้แจ้ง ทอท. อาทิ การแสดงข้อมูลการบิน ความสะอาดห้องน้ำ และที่นั่งพักคอยช่วงเวลาเที่ยวบินล่าช้า หรือการรอขึ้นเครื่องบิน
นอกจากนี้เรื่องขนาดพื้นที่ต่อผู้โดยสารก็เป็นสิ่งสำคัญ หากเทียบกับสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ทสภ. ยังน้อยกว่าเท่าตัว ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การขยายพื้นที่เพิ่มภายในสนามบิน
คาดว่าอันดับสนามบินฯ ของ ทสภ. จะขยับดีขึ้นอีกครั้ง เมื่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) แล้วเสร็จ และเปิดบริการปี 71 ซึ่งจะทำให้ ทสภ. รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 15 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบัน 60 ล้านคนต่อปี ช่วยเพิ่มพื้นที่อีกกว่า 6 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) จากปัจจุบัน 5.6 แสนตร.ม.
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ในปีนี้สาเหตุที่ ทสภ. ได้รับการขยับอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลก นอกจากประสิทธิภาพ และมาตรฐานการให้บริการดีขึ้นแล้ว
ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) พื้นที่ 2.1 แสนตร.ม.ด้วย เพราะทำให้ขนาดพื้นที่ในการรองรับผู้โดยสารมีเพิ่มขึ้น
มั่นใจว่า ทอท. จะสามารถพัฒนา ทสภ. ให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่กำหนดไว้ว่า จะต้องได้รับการจัดอันดับติด 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ภายใน 1 ปี และติดอันดับ 1 ใน 20 ภายใน 5 ปีหลังจากนี้
สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ผู้โดยสารที่มาก่อนเวลาเคาน์เตอร์เปิดเช็กอินนานๆ และมายืนรอบริเวณเคาน์เตอร์ ทำให้แถวยาวดูแออัด ซึ่งจะประสานสายการบินให้เปิดเคาน์เตอร์เช็กอินเร็วขึ้นล่วงหน้าประมาณ 6 ชั่วโมง รวมถึงจะใช้มาตรการบังคับให้สายการบินหันมาใช้เครื่องเช็กอินอัตโนมัติมากขึ้นด้วย.