การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. นี้ เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย และเพชรบูรณ์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 269.50 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่หน้าวัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย มีนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย พลเอก เดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายสบธนา อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว สำนักงานสุโขทัย, นางสาวพรภิมล กันเนียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสุโขทัย, นางสาวนาตยา ภูศรี ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, นางเบญจภัทร หมวกทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย, นายสมพงค์ ชมชัย นายอำเภอเมืองสุโขทัย, นางกรรณชนก ขวัญนาง นายอำเภอคีรีมาศ, นายสุพัฒน์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอกงไกรลาศ, นายอเนก วิทยาพิรุณทอง นายอำเภอบ้านด่านลานหอย, นายวิทยา สันติกุล นายอำเภอศรีสำโรง, นายอนุสรณ์ มณีเลิศ นายอำเภอสวรรคโลก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และช่องยูทูบ Thai PBS มียอดผู้ชมรวมกันกว่า 300,000 วิว

สำหรับผลการแข่งขันสเตจที่ 2 เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผ่านโบราณสถาน วัดอโศการาม ผ่านอำเภอคีรีมาศ กลับมาเข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ระยะทาง 95.50 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางก็มีการต่อสู้กันเป็นระยะ เข้าสู่ช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้าย นักปั่นเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ต่างแย่งชิงตำแหน่งเพื่อหาจังหวะสปรินท์ ปรากฏว่า เหงียน ธิ ทัต นักปั่นทีมชาติเวียดนาม สปรินท์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก โดยมี “ผู้กองบีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ นูร์ อิสยา บินติ มูฮัมหมัด ซูบีร์ นักปั่นทีมชาติมาเลเซีย ได้อันดับ 3 ด้วยเวลา 2.28.25 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนนักปั่นไทยคนอื่น ๆ ที่อันดับดีที่สุดได้แก่ น.ส.กมลรดา ขาวปลอด นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 8, น.ส.รุ่งสภา กุศล นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 15 เวลา 2.28.25 ชั่วโมงเท่ากัน

รางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermediate Sprints จุดที่ 1 (IS1) เป็นของ ไครุนนิซา อาลียา ไซฟูลนิซัม นักปั่นทีมชาติมาเลเซีย โดยมี ธนัญญา ใจช่วง จากทีมฟิชเชอร์เฟรนด์ ได้อันดับ 2 ด้านตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 2 ได้แก่ นูร์ อิสยา บินติ มูฮัมหมัด ซูบีร์ นักปั่นทีมชาติมาเลเซีย ด้วยฟอร์มการปั่นที่ดุเดือด

รางวัลผู้นำเวลารวมตกเป็นของ เหงียน ธิ ทัต นักปั่นทีมชาติเวียดนาม เวลา 5.19.40 ชั่วโมง ได้สวม “เสื้อเหลือง” โดยมี ร.อ.จุฑาธิป มณีพันธุ์ รั้งอันดับ 2 ตามหลังผู้นำ 7 วินาที นอกจากนี้ รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็ว ก็เป็นของ เหงียน ธิ ทัต มี 34 คะแนนได้สวม “เสื้อเขียว” ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ร.อ.จุฑาธิป มณีพันธุ์ มี 31 คะแนน และรางวัลผู้นำนักกีฬายอดเยี่ยมอาเซียน ก็ยังเป็น เหงียน ธิ ทัต เช่นกัน ได้สวม “เสื้อม่วง” และมี จุฑาธิป รั้งอันดับ 2 ขณะที่เวลารวมประเภททีมประจำสเตจที่ 2 เป็นของทีมชาติมาเลเซีย พร้อมกับครองเวลารวมประเภททีมด้วย เวลา 16.00.06 ชั่วโมง ส่วนทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง รั้งอันดับ 3 เวลารวม 16.00.15 ชั่วโมง สำหรับผลการแข่งขันทั้งหมด สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th

หลังการแข่งขัน พลเอก เดชา กล่าวว่า หลังจากผ่านการแข่งขันมาแล้ว 2 วัน จะเห็นได้ว่าเกมสปรินท์หน้าเส้นชัย นักปั่นไทยสู้ความแรงของ เหงียน ธิ ทัต นักปั่นทีมชาติเวียดนามไม่ได้ ดังนั้นสเตจที่ 3 สเตจสุดท้ายต้องเปลี่ยนแผน เป็นการหนีออกมาจากกลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะทำให้แย่งเสื้อเหลืองมาเป็นของนักปั่นไทย แต่ถ้ายังปั่นแบบเดิมก็ไม่มีทางที่คว้าแชมป์มาครอง เพราะว่าความแข็งแรง เหงียน ธิ ทัต เขาเหนือกว่าจุฑาธิป ต้องยอมรับว่าการเร่งสปรินท์เข้าเส้นชัยจุฑาธิป แพ้ทางนักปั่นเวียดนาม ต้องใช้เกมหนีให้ขาด เหมือนตอนที่ “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช แข่งที่จังหวัดมุกดาหาร แล้วเราก็ได้แชมป์มาครอง อย่างไรก็ตาม เกมการแข่งขันจักรยานไม่มีอะไรที่แน่นอน เพราะฉะนั้นต้องไม่ประมาท และต้องสู้อย่างเต็มที่