“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เจอปัญหาใหญ่ในการลุ้นป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังจากที่ทำได้แค่เปิดรังเสมอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
1 คะแนน จากเกมดังกล่าว ทำให้ แมนฯ ซิตี มีเพิ่มเป็น 64 คะแนน อยู่ที่ 3 โดยตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 3 คะแนน และตามหลังอันดับ 2 อาร์เซนอล 1 คะแนน
ดูเผินๆ แมนฯ ซิตี เหมือนจะยังอยู่บนเส้นทางการลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่ปัญหาใหญ่ที่อาจจะทำให้พวกเขาชวดแชมป์ก็คือผลงานในการเจอกับทีมใหญ่ เพราะในฤดูกาลนี้ เรือใบสีฟ้า ยังไม่สามารถเอาชนะทีมที่อยู่ในกลุ่ม 5 อันดับแรกของตารางได้เลย
แมนฯ ซิตี บุกไปแพ้ อาร์เซนอล ในเกมแรกที่เจอกัน ก่อนกลับมาเสมอในบ้านตัวเองดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เสมอกับ ลิเวอร์พูล ทั้ง 2 นัดที่พบกัน
อีกทั้ง พวกเขายังเคยบุกไปแพ้ แอสตัน วิลลา และเสมอกับ สเปอร์ ในบ้านตัวเอง ทำให้ “เดอะ ซิติเซนส์” ยังเอาชนะทีมในกลุ่ม “ท็อป 5” ไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี ยังมีเกมที่จะเจอกับทีมท็อป 5 อีก 2 นัด นั่นคือ เปิดรังพบกับ แอสตัน วิลลา ในวันพุธนี้ และไปเยือน สเปอร์ ที่ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันเตะที่ชัดเจน
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี เคยชนะ สเปอร์ มาแล้ว ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา แต่การไปเยือนทีมไก่เดือยทองในเกมลีกนั้น เรือใบสีฟ้า ไม่เคยบุกไปชนะ สเปอร์ มาตั้งแต่ปี 2019 หรือตั้งแต่ที่ทีมไก่เดือยทอง ย้ายมาใช้สนามทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นรังเหย้า
ยิ่งกว่านั้น การเสมอ อาร์เซนอล 0-0 ยังถือเป็นครั้งแรก ที่แมนฯ ซิตี ทำประตูในบ้านตัวเองไม่ได้เป็นครั้งแรก ในรอบถึง 57 เกม
ส่วน เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าตัวเก่ง ที่ยิงประตูไม่ได้ในเกมนี้ ก็มีสถิติย่ำแย่ เมื่อทำไปแค่ 4 ประตู จากเกมลีก 9 นัด นับตั้งแต่หายเจ็บกลับมาลงสนาม เมื่อเดือน ม.ค.