เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า  ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในช่วงบ่ายเข้าสู่วาระการพิจารณาเรื่องด่วน ซึ่งเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จำนวน 6 ฉบับ ในวาระแรก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะ ส.ส.บางส่วนต้องไปประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และคณะอนุ กมธ.งบประมาณชุดต่างๆ ทำให้การเรียกสมาชิกเข้ามาแสดงตนเพื่อลงมติในร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ใช้เวลานานมากกว่า 5 นาที โดยจำนวนผู้มาแสดงตนในร่างกฎหมายแต่ละฉบับ เกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมมาเพียงไม่มาก และลดลงเรื่อยๆ

จนกระทั่งมาถึงร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่ 4 คือ ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม มีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมเหลืออยู่เพียง 251 คน เกินกึ่งหนึ่งจาก 242 คน ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 483 มาเพียง 6 คนเท่านั้น หลังจากที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมแล้ว ที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต ตามที่ ครม.เป็นผู้เสนอ โดยมี ส.ส.อยู่ในห้องประชุมบางตา เมื่อสมาชิกอภิปรายแสดงความเห็นครบถ้วนแล้ว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้กดออดเรียก ส.ส.มาแสดงตนอยู่หลายครั้ง พร้อมพูดอารัมภบทต่างๆ รอเวลาสมาชิกเข้าห้องประชุม ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุม กมธ.งบประมาณ และอนุ กมธ.งบประมาณ จำนวนมากกำลังทยอยลงมา ขอให้รอ 5นาที

แต่ปรากฏว่า เมื่อรอไปไม่ถึง 5 นาที นายสุชาติ แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไม่เป็นไร ให้สมาชิกประชุม กมธ.ต่อไป ส่วนการลงมติร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไว้รอครั้งต่อไป พร้อมกับสั่งปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทันที ในเวลา 16.30 น.