ศึกฟุตบอลแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่ประเทศไอวอรีโคสต์ เมื่อวันพุธที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นเกมในรอบรองชนะเลิศ คู่แรก ไนจีเรีย อดีตแชมป์ 3 สมัย ดวลแข้งกับ แอฟริกาใต้ อดีตแชมป์ 1 สมัย โดยครึ่งแรกยังไม่มีประตูเกิดขึ้น เสมอกันอยู่ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “อินทรีมรกต” ขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 67 จากจุดโทษของ วิลเลียม เอก็อง ในนาทีที่ 67 แต่ “บาฟานา บาฟานา” ไม่ยอมง่าย ๆ ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในนาทีที่ 90 จากจุดโทษของ เตโบโฮ โมโคเอนา จบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสทำประตูกันหลายครั้ง ถึงนาทีที่ 115 “บาฟานา บาฟานา” ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง แกรนท์ เกกานา โดนใบแดงไล่ออกไป แต่จบ 120 นาทียังกินกันไม่ลง เสมอ 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน ปรากฏว่า ไนจีเรีย ยิงแม่นกว่า เอาชนะไป 4-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 8

ส่วนเกมอีกคู่ในรอบตัดเชือก “ช้างดำ” ไอวอรีโคสต์ ทีมเจ้าภาพ อดีตแชมป์ 2 สมัย พบกับ ดีอาร์ คองโก อดีตแชมป์ 1 สมัย โดยเกมครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเจ้าภาพมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 65 จากฝีเท้าของ เซบาสเตียน อัลแลร์ และกลายเป็ฌนประตูชัยให้ ไอวอรีโคสต์ เฉือนชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

สำหรับเกมรอบชิงอันดับ 2 แอฟริกาใต้ พบ ดีอาร์ คองโก จะฟาดแข้งกันในวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ ไอวอรีโคสต์ จะพบกับ ไนจีเรีย ที่สต๊าด อลาสซาน อ็อตตารา ในกรุงอบิดจาน ในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. นี้

เครดิตภาพ : AFP