“นัท วันเดอร์เกิร์ล” นักสู้สาวมากฝีมือ วัย 24 ปี เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ขอเปิดโหมดสู้ตาย ลุยแลกเดือด “ดายาน คาร์โดโซ” จอมบู๊สาวขาลุย วัย 27 ปี จากบราซิล โดยจะวัดฝีมือกันภายใต้กติกาพิเศษ รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) ในศึก ONE Fight Night 19 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกาซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 17 ก.พ.นี้
สำหรับ “นัท” ที่เริ่มต้นอาชีพนักกีฬาการต่อสู้ในฐานะนักมวยไทย ตัดสินใจกระโดดข้ามสายย้ายมาปล่อยของในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) มาแล้ว 2 ไฟต์ก่อนหน้านี้ โดยทำผลงานเก็บชัยชนะ 1 แพ้ 1 ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไป เธอยอมรับว่ายังมองเห็นจุดบกพร่องของตัวเองในหลาย ๆ ด้านที่ต้องเร่งกำจัดเพื่อพัฒนาฝีมือ
“สิ่งที่ต้องปรับปรุงหลัก ๆ เลย คือการป้องกันตัวเวลาโดนเทกดาวน์ที่ยังทำได้ไม่ดีพอ และการเปิดเกมบุกใส่คู่ต่อสู้ที่หนูยังติดการย่างสามขุมเหมือนมวยไทย ซึ่งในกติกา MMA การเดินแบบนั้นจะเป็นการเปิดช่องให้คู่ต่อสู้เข้ารวบเอว พาเราลงไปเล่นเกมนอนได้ง่าย ๆ เลยค่ะ เรื่องการทำน้ำหนักก็เหมือนกัน หนูต้องมาให้เต็มเวตมากกว่านี้ จำเป็นจะต้องเพิ่มเรื่องการกินให้มากขึ้นค่ะ”
การต้องโคจรมาพบกับสาวแกร่งอย่าง “ดายาน คาร์โดโซ” ในกติกาพิเศษ แข่งขันกัน 4 ยก ยกละ 3 นาที และพักระหว่างยก 1 นาที สลับกันระหว่างมวยไทย (ยกที่ 1 และ 3) กับ MMA (ยกที่ 2 และ 4) และหากครบ 4 ยก ยังไม่มีใครปิดเกมคู่ต่อสู้ได้ จะถือว่าผลการแข่งขันออกมาเสมอกัน เป็นเหตุให้ “นัท” ตัดสินใจย้ายสถานที่ซ้อมจากค่ายจรูญศักดิ์มวยไทย มาสู่ค่ายมวย Southside MMA จ.ภูเก็ต ที่มีหลักสูตรการฝึกซ้อมครบทุกศาสตร์วิชาในการต่อสู้สไตล์ MMA
“ไฟต์นี้หนูเก็บตัวซ้อมที่ภูเก็ตค่ะ เพราะถ้าซ้อมที่บ้านก็จะมีแต่มวยไทย กับมวยสากลอย่างเดียว แต่ถ้าเน้นเรื่อง MMA ยังไงก็ต้องมาที่นี่ เพราะมีให้ฝึกทักษะการต่อสู้ครบทุกอย่าง และมีคู่ซ้อมต่างชาติเยอะมาก ซึ่งการเตรียมความพร้อมในไฟต์นี้ หนูได้ โคลตัน คีลบาซา (นักกีฬา MMA ของ ONE) มาเป็นคู่ซ้อมหลัก เพราะเขามีส่วนสูงที่ใกล้เคียงกับคู่ชกของหนูค่ะ”
แม้คู่ต่อสู้อย่าง “ดายาน” จะมีประสบการณ์ด้าน MMA เหนือกว่าพอสมควร แต่นั่นกลับไม่ทำให้ “นัท” รู้สึกท้อแท้ ซ้ำยังกลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่จุดประกายให้เธออยากจะเอาชนะตัวแม่จากบราซิล ในยก MMA ให้ได้ เพื่อพิสูจน์ฝีมือให้โลกเห็นว่าเธอเองก็เป็นนักกีฬา MMA ระดับโลกคนหนึ่งเช่นกัน
“ดายาน” เป็นนักสู้ที่ถือว่าครบเครื่องเลยค่ะ จุดแข็งของเขาคือมีหมัดที่หนัก เขามักจะออกหมัดเขวี้ยงเหนือศีรษะตลอด ซึ่งหนูต้องระวังจุดนี้เป็นพิเศษ ส่วนจุดอ่อนของเขา คือเรื่องช่วงชกที่สั้นกว่า เพราะหนูสูงกว่าถึง 10 ซม. ก็จะอาศัยข้อได้เปรียบนี้ รักษาช่วงชก ชิงจังหวะไปเรื่อย ๆ ซึ่งไฟต์นี้หนูมีเป้าหมายอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการเอาชนะให้ได้ในยก MMA เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า หนูมีความสามารถด้าน MMA ไม่แพ้ใคร แม้ประสบการณ์จะยังน้อยอยู่ก็ตาม”
แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 19 ในสนามผ่านทาง Thaiticketmajor.com และติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 08.00 น. และทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) รับสัญญาณสดเวลา 10.00 น. และติดตามข่าวสารความคืบหน้าของ ONE ได้ทางเว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
