สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมาประกาศโปรแกรมการแข่งขัน รวมถึงสนามที่จะใช้ในเกมนัดเปิดสนาม และรอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพร่วมกับ เม็กวิโก และ แคนาดา ออกมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเกมนัดเปิดสนามจะมีขึ้นที่เอสตาดิโอ อัซเตกา ในกรุงเม็กซิโก ซิตี ประเทศเม็กซิโก ในวันที่ 11 มิ.ย. 2026 ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นที่เมตไลฟ์ สเตเดี้ยม ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 19 ก.ค. 2026
สำหรับเอสตาดิโอ อัซเตกา ซึ่งเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1966 และปัจจุบันมีความจุ 83,000 ที่นั่งนั้น ถือเป็นสนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยเป็นสนามเดียวในโลกที่เคยเป็นสังเวียนแข้งฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในเวิลด์ คัพ 1970 และ 1986 และสนามดังกล่าวก็กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ เป็นสนามแห่งแรกในโลก ที่ได้จัดเกมฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามถึง 3 ครั้งอีกด้วย
ขณะที่เกมในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2026 นั้น เดิมทีมีการคาดหมายว่าสนาม เอที แอนด์ ที สเตเดี้ยม ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส อาจได้รับหน้าเสื่อจัดเกมชิงดำ แต่สุดท้าย ฟีฟ่า เลือกสนาม เมตไลฟ์ สเตเดี้ยม ในมหานครนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2010 ความจุ 82,500 ที่นั่ง ให้เป็นสังเวียนของเกมนัดสำคัญดังกล่าว
ส่วนเกมในรอบรองชนะเลิศนั้น จะมีขึ้นที่สนาม เอที แอนด์ ที สเตเดี้ยม ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส และสนามเมอร์เซเดส เบนซ์ สเตเดี้ยม ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ส่วนเกมนัดชิงอันดับ 3 จะมีขึ้นที่สนามฮาร์ดร็อค สเตเดี้ยม ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา
ขณะที่เกมแรกของทีมเจ้าภาพทั้ง 3 ชาตินั้น เม็กซิโก ก็จะได้เล่นเป็นคู่เปิดสนามที่เอสตาดิโอ อัซเตกา ในวันที่ 11 มิ.ย. ส่วนสหรัฐอเมริกา จะลงเล่นเกมแรกที่สนามโซไฟ สเตเดี้ยม ในนครลอส แอนเจลิส ในวันที่ 12 มิ.ย. ขณะที่ แคนาดา จะเล่นเกมแรกที่สนามบีเอ็มโอ ฟิลด์ ในนครโตรอนโต ในวันที่ 12 มิ.ย.
สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นครั้งแรกที่มีทีมร่วมฟาดแข้งเพิ่มเป็น 48 ทีม แบ่งเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยแชมป์และรองแชมป์กลุ่ม รวมถึงทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 8 จาก 12 กลุ่ม จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ขณะที่จำนวนเกมทั้งหมดจะเพิ่มเป็น 104 นัด และมี 16 เมืองจาก 3 ประเทศร่วมเป็นเจ้าภาพ
เครดิตภาพ : Getty Images, “X” (ทวิตเตอร์) @FIFAWorldCup
