การแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ รอบแรก กลุ่ม E นัดสุดท้าย วันที่ 25 ม.ค.67 จอร์แดน พบ บาห์เรน และ เกาหลีใต้ พบ มาเลเซีย ก่อนลงสนาม จอร์แดน กับ เกาหลีใต้ มี 4 แต้ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว เตะส่งท้ายเพื่อจัดอันดับ ประกบคู่รอบ 2 ทีมแชมป์กลุ่ม จะเจอ ญี่ปุ่น ส่วนบาห์เรน 3 แต้ม ก็จ่อเข้ารอบ ส่วน เสือเหลือง ไม่มีแต้ม ตกรอบแล้ว
ในคู่ โสมขาว-เสือเหลือง ฝั่งเกาหลีใต้ ที่นำโดย ซนเฮืองมิน นำก่อนจากการโหม่งของ จอง วู-ยอง นาทีที่ 21 ซึ่งครึ่งแรก เกาหลีใต้ ครองบอลกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ครึ่งหลัง มาเลเซีย ยิงแซง จาก อับดุล ฮาลิม นาทีที่ 51 กับ อาริฟ ไอมัน ยิงจุดโทษ นาทีที่ 61 อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ ฮึดตีเสมอนาทีที่ 83 จาก อี คัง-อิน และยิงแซง 3-2 ในช่วงทดเวลา นาทีที่ 90+4 จากจุดโทษของ ซน เฮืองมิน
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 90+15 มาเลเซีย ตีเสมอ จาก โมราเลส รามิเรซ จบเกมเสมอ 3-3
อีกคู่ จอร์แดน แพ้ บาห์เรน 0-1
ทำให้กลุ่มนี้ บาห์เรน 7 แต้ม พุ่งมาคว้าแชมป์กลุ่มเฉย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปชน “ซามูไร” ญี่ปุ่น
ส่วน เกาหลีใต้ 5 แต้ม เข้ารอบอันดับ 2 รอพบทีมแชมป์กลุ่ม F ระหว่าง ซาอุดีอาระเบีย หรือ ไทย ที่จะเตะ 22.00 น.
ด้าน จอร์แดน 4 แต้ม เข้ารอบอันดับ 3
สำหรับ กลุ่ม F ก่อนเตะนัดสุดท้าย เวลา 22.00 น. ซาอุฯ มี 6 แต้ม ถ้าเสมอจะเข้ารอบอันดับ 1 ส่วน ไทย มี 4 แต้ม ถ้าชนะจะแซงเข้ารอบอันดับ 1
สรุปสถานการณ์ของ ช้างศึก ก่อนเตะเวลา 4 ทุ่ม ถ้าชนะ ซาอุฯ จะเข้าที่ 1 ไปเจอ เกาหลีใต้, ถ้าเสมอ เข้ารอบอันดับ 2 ไปเจอ อุซเบกิสถาน และหากแพ้ แล้วโดนโอมาน ชนะกับทำประตูได้เสียแซง ทีมไทย เข้าอันดับ 3 ไปพบ อิรัก