นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนนโยบายคมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชนปี 2567 และปี 2568” ซึ่งมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมงานว่า ในช่วงวันที่ 24-29 ม.ค. 67 หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม จะประชุมร่วมกันเพื่อนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ไปแปลงเป็นแผนปฏิบัติการ (Action Plan) เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้ นำมาซึ่งความอุดมสุขของประชาชนต่อไป เบื้องต้นโครงการที่จะเกิดขึ้นในแผนฯ มี 72 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) และโครงการใหม่ที่มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมจะพยายามผลักดัน ทั้ง 72 โครงการ ให้เกิดขึ้นภายในรัฐบาลชุดนี้ โดยแต่ละโครงการจะกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ อย่างไร และแล้วเสร็จเมื่อใด รวมถึงจะกำหนดตัวชี้วัดด้วยว่า หากโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน อาจต้องพิจารณาโยกย้ายผู้บริหาร อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมเน้นให้ความสำคัญกับทุกโหมดการเดินทาง ทั้งบก น้ำ ราง อากาศ ซึ่งล่าสุดได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวง (ทล.) พิจารณาสร้างสะพานสารสินแห่งใหม่ ที่ จ.ภูเก็ต แทนสะพานสารสินเดิม ที่เชื่อมระหว่าง จ.พังงา กับ จ.ภูเก็ต เพราะปัจจุบันความสูงของสะพานไม่เพียงพอ ส่งผลให้เรือสำราญขนาดใหญ่ไม่สามารถลอดผ่านไปได้ ต้องเดินเรืออ้อม เสียเวลาเป็นวัน

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นสะพานสารสินแห่งใหม่ มีความยาว 650 เมตร และมีความสูงที่มากกว่าเดิม เป็นสะพานขึง มีตอม่อ 2 ฝั่ง ไม่ต้องมีตอม่อตรงกลาง เพื่อให้เรือสำราญขนาดใหญ่สามารถลอดผ่านได้ ซึ่งปัจจุบันมีเรือสำราญขนาดใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อสร้างสะพานสารสินแห่งใหม่แล้วเสร็จ จะรื้อสะพานสารสินแห่งเดิมออก อย่างไรก็ตาม รายละเอียดต่างๆ ในการดำเนินงาน ได้มอบให้ ทล. หารือร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในการประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้ด้วยว่า ควรเป็นทางพิเศษ (ด่วน) หรือไม่ เพราะเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนสายกะทู้-ป่าตองได้.