เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย โรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ในพื้นที่ ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพื่อพูดคุยสอบถามกับคณะครูของโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งมีแต่ครูผู้หญิงล้วน หลังจากที่หนึ่งในครูของโรงเรียนนั้น ได้ออกมาเป็นเสียงสะท้อนของครูที่ต้องอยู่เวรยามเฝ้าโรงเรียนลำพังในวันที่ไร้นักการภารโรงประจำโรงเรียน ภายหลังจากที่วานนี้ (23 ม.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการเสนอในที่ประชุมเกี่ยวกับการยกเลิกครูเวรยามทั่วประเทศ และมอบหน้าที่ให้กระทรวงมหาดไทยและตำรวจดูแลแทน ซึ่งสรุปมติเป็นเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยที่มติดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติทันที และหลังจากนี้จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นลำดับต่อไป
เสียงสะท้อนจากครูที่โรงเรียนมีแต่ผู้หญิง อยู่เวรลำพังในวันที่ไร้นักการภารโรง
ครูเฮ! ครม.ไฟเขียวยกเลิกเข้าเวรโรงเรียนแล้ว
โดย นางปัทมนันท์ อิสริยภานันท์ ครูชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางนายกรัฐมนตรี ทางกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนทางผู้ใหญ่จากกระทรวงหลายๆ ฝ่าย ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของบุคลากร ครู ทั้งในเรื่องของการยกเลิกครูเวร และการคืนตำแหน่งนักการภารโรงให้กับโรงเรียน ทำให้ตอนนี้รู้สึกดีใจมากๆ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของพวกเรา ส่วนเรื่องของการดูแลโรงเรียนซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของทางราชการนั้น เป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างให้ความสำคัญในการดูแลรับผิดชอบโดยสมัครใจทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่อยากขอให้มีความปลอดภัยในการดูแลชีวิตของเรา ในขณะที่เรานั้นดูแลทรัพย์สินของราชการ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการประกาศเรื่องดังกล่าวออกมา ทางคณะกรรมการโรงเรียน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางนายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับคณะครูด้วยเช่นกัน โดยมีการจัดเวรยามเข้ามาคอยดูแลโดยรอบโรงเรียนเป็นช่วงเวลาตลอดทั้งวัน ทำให้ตอนนี้อุ่นใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ด้าน นางสาวนิชาภา ไม้สนธิ์ ครูโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ใหญ่จากกระทรวงหลายๆ ฝ่ายเข้ามาให้ความสำคัญในการช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับครูแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก อย่างก่อนหน้านี้ตนเองและครูผู้หญิงอีก 3 คน ก็ต้องคอยสลับกันมาอยู่เวรเฝ้าที่โรงเรียนกันตลอด ซึ่งการอยู่เวรแต่ละครั้งเราก็ต้องอยู่คนเดียว ซึ่งทุกครั้งที่อยู่เวรนั้น ยอมรับว่ารู้สึกกลัวทุกครั้ง แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องทำก็ต้องหาวิธีช่วยป้องกันตัวเอง ทั้งนำรถไปจอดด้านหลังโรงเรียน ไม่เปิดหน้าต่าง แง้มประตูไว้เล็กน้อย เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ เพราะโรงเรียนของเรานั้นไม่ได้เป็นระบบปิด เนื่องจากเป็นทางลัดผ่านเข้าออกหมู่บ้าน แต่เมื่อถึงเวลาที่ไม่มีเด็กๆ ก็เงียบจนน่ากลัวเหมือนกัน ทำให้เวลาที่มีรถขับผ่านมาก็ยังมีความหวาดระแวงไม่น้อยว่า หากเกิดอะไรขึ้นเราจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไรดี ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากๆ ว่าต่อไปนี้จะไม่ต้องอยู่กันลำพังแล้ว.