นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า สถิติการร้องเรียนรถสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 66 ระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. 66 โดยมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 37,146 เรื่อง และได้ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 34,301 เรื่อง หรือคิดเป็น 92.34% แบ่งออกเป็น

1.รถโดยสารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถแท็กซี่, รถสามล้อ, รถสี่ล้อเล็ก และรถจักรยานยนต์ (จยย.) รับจ้าง) จำนวน 31,007 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 26,290 เรื่อง คิดเป็น 84.78% และ 2.รถโดยสารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (รถเมล์, รถมินิบัส, รถตู้ และ รถสองแถว) จำนวน 6,139 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 4,815 เรื่อง คิดเป็น  84.41%

นายเสกสม กล่าวต่อว่า สำหรับ 5 ข้อหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ได้แก่ 1.ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 2.แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 3.ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 4.ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และ 5.พาผู้โดยสารไปเส้นทางที่อ้อมเกินควร ขณะที่ 5 ข้อหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ได้แก่ 1.ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 2.ไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้าย 3.แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 4.จอดรถขวางทางจราจร และ 5.สภาพรถไม่สมบูรณ์แข็งแรง (ควันดำ)   

ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียนต่างๆ หากดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ ถ้าพบการกระทำผิดของรถโดยสารสาธารณะ จะนำระบบตัดคะแนนใบอนุญาตผู้ขับรถขนส่งและรถสาธารณะมาบังคับใช้ เพื่อหวังว่าจะสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนและการให้บริการผู้โดยสารรถสาธารณะ โดยผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร รถแท็กซี่ รถสามล้อสาธารณะ รถ จยย.รับจ้าง ที่กระทำผิดตามข้อหาที่กำหนด และถูกตัดคะแนนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หากพบการกระทำผิดจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จะดำเนินการถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ