รายงานข่าวจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) แจ้งว่า ขณะนี้สหภาพแรงงานฯ มอบหมายให้ประธานสาขาทั้ง 8 เขตการเดินรถ ตรวจสอบกรณีปัญหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) ยี่ห้อ BONLUCK หรือ BLK ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประสบปัญหาจอดเสีย เนื่องจากไม่มีอะไหล่ และไม่มีช่างซ่อมบำรุง หลังช่างซ่อมบำรุงต่างพากันประท้วง เนื่องจากบริษัทผู้รับจ้างไม่จ่ายค่าแรงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีรถเมล์เอ็นจีวีให้บริการ จำนวน 4 เขตการเดินรถ ได้แก่ เขตการเดินรถที่ 1 อู่บางเขน เช่น สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ, เขต 2 อู่มีนบุรี เช่น สาย 26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ และ สาย 168 สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยฯ, เขต 3 อู่เมกาบางนา เช่น สาย 23 สำโรง-เทเวศร์ และ สาย 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ และ เขต 5 อู่แสมดำ เช่น สาย 76 แสมดำ-ประตูน้ำ และ สาย 141 แสมดำ-จุฬาฯ หากพบว่ามีรถเมล์จอดเสียหายดังกล่าว และยังไม่ได้รับการซ่อม นำรถออกบริการประชาชนไม่ได้จะนำสู่การประชุมสหภาพแรงงานฯ เพื่อสรุปแนวทางดำเนินการเสนอ ขสมก. ต่อไป

เพราะกรณีรถเมล์เอ็นจีวีจอดเสียและไม่ได้รับการซ่อมนั้น ทำให้ ขสมก. เสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง ที่ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนรถเมล์จากเส้นทางอื่นมาให้บริการแทน ทำให้รถเมล์บางเส้นทางไม่เพียงพอ ประชาชนคอยนาน เกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง ซึ่งบริษัทที่เหมาซ่อมรถเมล์เอ็นจีวีนั้น คือ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ที่มี บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) และ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ (CHO) ซึ่งก่อนหน้านี้ สหภาพแรงงานฯ ได้ส่งหนังสือถึง ผอ.ขสมก. แล้วให้พิจารณาบอกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถซ่อมรถให้นำมาออกบริการได้ จนต้องหยุดเดินรถเมล์เอ็นจีวี 486 คัน เมื่อวันที่ 29-30 ธ.ค.66 และควรเร่งหาบริษัทอื่นที่มีความพร้อมมาซ่อมบำรุงแทน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเดินรถ และบริการประชาชนต่อไป

อย่างไรก็ตามสหภาพแรงงานฯ จะติดตามผลประชุมที่ ขสมก. ได้เรียกบริษัทคู่สัญญาเหมาซ่อมบำรุงมาหารือในปัญหาดังกล่าววันที่ 16 ม.ค.นี้ หากพบว่ากระทำผิดสัญญา ขสมก. ควรจะบอกเลิกสัญญาโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ขององค์กร และลดผลกระทบประชาชนผู้ใช้บริการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากเกิดกรณีเช่นนี้อีก