โดย “ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล” ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ “ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล” อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มานำเสนอให้ลองพิจารณากัน ดังนี้…

แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2567 จะยังต้องลุ้นกันเหนื่อย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเป็นการเติบโตช้า อีกทั้งตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกกับการท่องเที่ยวก็ยังดูไม่ดีจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก รวมถึงจากการที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และค่าไฟฟ้าที่กำลังจะขึ้นตามมา จึงส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนไทย จนเลือกใช้จ่ายน้อยลง” …เป็น “แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2567” ที่ ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล วิเคราะห์ พร้อมกับได้ยํ้าเตือนให้ “คนไทยเตรียมตัวรับมือ” และในปีหน้าประเทศไทยต้องระวังเรื่องหนี้สินครัวเรือน เพราะอยู่ระดับขณะนี้สูงมาก ซึ่งปี 2567 นี้คงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องหนี้เสีย การควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และราคาสินค้าเป็นพิเศษ โดยจะต้องประคับประคองเศรษฐกิจไทยไม่ให้ถดถอยไปมากกว่านี้…

ส่วน “ธุรกิจที่มีแนวโน้มดี ปี 2567” ทาง ดร.ภูษิต ระบุว่า…ปี 2567 อาจจะ “มีธุรกิจที่มาแรง” และ “ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต” เช่นกัน ประกอบด้วย… “ธุรกิจเทคโนโลยี AI” กับ “ธุรกิจโรโบติกส์ (robotics)” จะมีบทบาทและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านดิจิทัล ธุรกิจเช่าคลาวด์พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ต่าง ๆ รวมถึง “บริการดูแลเกี่ยวกับความยั่งยืน” ก็จะเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน จากการที่ธุรกิจทั่วโลกหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเท่าเทียมมากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจเกี่ยวกับ “อีคอมเมิร์ช” ก็จะยังเติบโตไปพร้อมกับ “ธุรกิจขนส่ง” เหมือนปีที่ผ่านมา…

สำหรับที่จะเติบโตในปี 2567 เช่นกัน ก็ยังมีธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้… “ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ” จากการที่ไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องมีการเติบโตขยายตัวกว่าในปีที่ผ่านมา, “ธุรกิจโรงพยาบาล” และ “ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ” เช่นอาหารเสริม, วิตามิน, ฟิตเนส, คลินิกรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม, ธุรกิจความงาม หมอ พยาบาล ผู้ให้คำปรึกษาด้านความงามก็เติบโตมาแรงในปี 2567 นี้เช่นกัน, “ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง” ก็จะมาแรงในปี 2567 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ จากการที่มีคนแก่และคนเหงามากขึ้น, “ธุรกิจพลังงานทดแทน” นับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนพลังงานแบบเก่าที่แพงขึ้น ทำให้คนหันมาใช้พลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือก จนธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวตามไป เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืน ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจจัดการขยะ รวมถึงธุรกิจกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV

ขณะที่ “อาชีพเด่น ๆ” หรือ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2567” ทาง ดร.ภูษิต ระบุว่า… อาชีพที่เติบโตส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ได้แก่…อาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักโปรแกรมเมอร์ นักให้คำปรึกษาด้านดิจิทัล รวมถึงกลุ่ม “Solopreneur” หรือ “ธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการคนเดียว” ซึ่งเป็นคนที่เลือกทำงานด้วยตัวเองผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น อาชีพรับทำเว็บไซต์ อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ติ๊กต็อกเกอร์ ผู้ให้คำปรึกษาดิจิทัล ดิจิทัลเอเจนซี่ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ดิจิทัลรีเสิร์ช จะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความโดดเด่น และมาแรงในปี 2567

แม้อาชีพเหล่านี้จะมีแนวโน้มดี แต่ก็ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอไม่ให้หยุดนิ่ง” …นี่เป็นคำแนะนำจาก ดร.ภูษิต ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุไว้

แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศไทย ปี 2567 ยังพูดยาก!! เพราะยังไม่เห็นปัจจัยที่จะทำให้เติบโตก้าวกระโดดได้ แต่ถ้ามีการส่งออกที่ดี มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงมีทุนจากต่างชาติเข้ามา ปีหน้าก็อาจจะมีโอกาสเติบโตได้เช่นกัน”

…นี่เป็นการวิเคราะห์ “ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปี 2567” จาก ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชย ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยสำหรับปี 2567 ทาง ศ.วิทวัส ได้มองว่า… เศรษฐกิจไทยยังต้องหวังพึ่งพาเม็ดเงินจาก 3 แหล่งหลัก ๆ ได้แก่… การส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างชาติ ดังนั้น ปี 2567 ไทยคงยังต้องลุ้นกันว่า… จะมีเม็ดเงินเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่ เพราะยังมีอุปสรรจาก “วิกฤติเศรษฐกิจโลก” อย่างไรก็ดี หากจะมีปัจจัยใดที่จะใช้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้นั้น กรณีนี้ ทาง ศ.วิทวัส มองว่า… คงจะต้องดูที่แหล่งสำคัญ 2 แหล่ง ดังต่อไปนี้… คือ “เม็ดเงินจากต่างชาติ” กับ “เม็ดเงินในประเทศ” โดยเม็ดเงินในประเทศนั้น ก็จะมาจาก 2 แหล่ง เช่นกัน ได้แก่… การจับจ่ายใช้สอยของรัฐบาล ผ่านการทำโครงการสาธารณูปโภค และเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ กับ… การจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลเองก็พยายามกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือแม้แต่ “นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ซึ่งการที่รัฐบาลพยายามสู้เรื่องของเงินดิจิทัลนี้ คงเพราะถ้าไม่มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาช่วยพยุง เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2567 ก็จะซึม ๆ ทรง ๆ ไม่ต่างกับปี 2566 ที่ผ่านมา

ส่วนแนวโน้ม “ธุรกิจดาวเด่นมาแรง ปี 2567” ในมุมมองของ ศ.วิทวัส นั้น ก็ได้วิเคราะห์เอาไว้ ดังต่อไปนี้ ได้แก่…“ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI” โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการทำให้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ “อาชีพที่เป็นดาวรุ่ง” ในปี 2567 จึงเกี่ยวกับกลุ่มอาชีพ… นักเขียนโปรแกรม, ช่างซ่อมบำรุง, ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี AI, พนักงานขายโปรแกรม พนังานเซอร์วิสบริการทางเทคโนโลยี, นักเทรนนิ่งโปรแกรม …ขณะที่ “ธุรกิจเกี่ยวกับโรโบติกส์ (Robotics)” ก็จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรง โดยจะมีโรงงาน ผู้ประกอบการ SME ร้านอาหาร เริ่มหันมาใช้โรโบติกส์กันมากขึ้น เพื่อทดแทนแรงงานคน…

ธุรกิจบริการสุขภาพ” ถือเป็นธุรกิจเดิมที่ปี 2567 ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ดูได้จากการที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มีการเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรเพื่อสุขภาพเยอะขึ้น ทำให้กลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ… อาชีพหมอ พยาบาล เภสัช กรรม ทันตกรรม ผู้ช่วยพยาบาลคนดูแลผู้สูงอายุ จะเป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจ มีอนาคตสดใส ยิ่งถ้าสื่อสารได้หลาย ๆ ภาษา ก็จะยิ่ง “อัปรายได้-อัปค่าตัว” ได้เพิ่มขึ้น …ส่วนธุรกิจ “กลุ่มอาหาร” ก็เป็นสายธุรกิจเก่าที่ยังไปได้ดีในปี 2567 เช่นเดียวกัน แต่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในสายธุรกิจนี้ โดยจะมีการลงทุนระบบโรโบติกส์ หรือเลือกใช้บริการจากเอาต์ซอร์สเยอะขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องซื้อของเอง ไม่ต้องขนส่งเอง ทำให้สะดวกมากขึ้น ขณะที่ “อาชีพเชฟ” ก็จะเป็นที่ต้องการของตลาดเช่นกัน

ส่วนอื่น ๆ ที่มี “แนวโน้มดี ปี 2567” ได้แก่… ธุรกิจที่เกี่ยวกับ “ธุรกิจโลจิสติกส์” ที่จะเติบโตไปพร้อมกับ “ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ” ทั้งในประเทศและต่างประเทศ, “ธุรกิจผลิตสื่อโซเชียล” ที่เกี่ยวกับการขายสินค้าจะมาแรง เพราะคนหันมาใช้โซเชียลขายของมากขึ้น, “ธุรกิจเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง” ที่จะโดดเด่นและเติบโตในปี 2567 เนื่องจากคนหันมาเลี้ยงสัตว์คลายเหงาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งกรณีนี้ก็จะส่งผลดีกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ร้านอาหารสัตว์ โรงแรมสัตว์ ธุรกิจรับฝากเลี้ยง อาชีพสัตวแพทย์, “ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล” เช่นนักสถิติ นักคณิตศาสตร์ประกัน นักวิเคราะห์ข้อมูล จะกลายเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับความสนใจ และตลาดต้องการตัวมาก เนื่องจากเวลานี้ หลาย ๆ บริษัทมีการเก็บข้อมูลกันเยอะมากขึ้น, “ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเยียวยาจิตใจ” อาทิการให้คำปรึกษาและบำบัดด้านจิตวิทยา จะมาแรงในปี 2567 เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่เปราะบางและเครียดง่าย ทำให้อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสายงานนี้เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวกับการเป็นที่พึ่งทางใจและการให้กำลังใจ เช่น หมอดู คนทรง ก็จะได้รับความนิยม เพราะคนต้องการที่พึ่งทางใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2567” นั้น ทาง ศ.วิทวัส อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า… อาชีพเด่น ๆ ก็จะเป็นไปตามกลุ่มธุรกิจที่มาแรงในปี 2567 โดยที่น่าโฟกัสคือ… อาชีพเชฟทำอาหาร, นักเขียนโปรแกรม, นักพัฒนาซอฟต์แวร์, วิศวกรเทคโนโลยีดิจิทัล, นักวิเคราะห์ข้อมูล, อาชีพครีเอทีฟสายดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ติ๊กต็อกเกอร์ และ “อาชีพด้านสุขภาพกายและจิตใจ” อย่าง แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล จิตแพทย์ นักจิตวิทยาบำบัด รวมไปถึง สายอาชีพด้านช่างฝีมือ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างฝีมือที่มีความรู้มีประสบการณ์ และมีทักษะความรู้เกี่ยวกับทางด้านเทคโนโลยี จะยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ๆ ..เป็นการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ ที่สะท้อน และฉายภาพเกี่ยวกับ “อาชีพเด่น-ธุรกิจมาแรง”

…ทั้งนี้ นี่ก็เป็นข้อมูลโดยสังเขปจากการวิเคราะห์ “เทรนด์ธุรกิจ-เทรนด์อาชีพ ในปีใหม่ 2567” โดยนักวิชาการผู้สันทัดกรณีโดยมีปัจจัยไฮไลต์คือ พฤติกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริโภค ซึ่งทางทีม “ช่องทางทำกิน” นำเสนอเรื่องนี้ก็เพื่อให้แฟน ๆ หน้า “ช่องทางทำกิน” หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ได้ลองพินิจพิจารณากันไว้เป็นข้อมูล เพื่อนำไป “ปรับใช้” กับการ “ทำธุรกิจ-ทำงาน-ทำอาชีพ” ในปีใหม่ ปี พ.ศ. 2567 ซึ่งทางทีม “ช่องทางทำกิน” ก็ขอให้สามารถ “รุ่ง ๆ” กันทั่วหน้า โดยจะ…

ขอเอาใจช่วยทุก ๆ ท่าน.

—————
ทีมช่องทางทำกิน