“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ยกพลบุกประเทศกาตาร์ จะช่วงค่ำวันที่ 11 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเอเชียนคัพ 2023 รอบแรก ไทย อยู่กลุ่ม F โปรแกรมดังนี้ วันที่ 16 ม.ค.67 พบ คีร์กีซสถาน เวลาไทย 21.30 น., วันที่ 21 ม.ค.67 พบ โอมาน เวลาไทย 21.30 น. และวันที่ 25 ม.ค.67 พบ ซาอุดีอาระเบีย เวลาไทย 22.00 น. โดยอันดับ 1-2 เข้ารอบทันที ส่วนอันดับ 3 คัด 4 ทีมที่ดีสุด จาก 6 กลุ่ม

โดยการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชุดแรก 28 คน ไปเวลา 19.10 น. ส่วนชุดที่ 2 รวม 18 คน บินเวลา 20.40 น. โดย สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ประสานกับ “เจ้าภาพ” กาตาร์ ให้นำรถมารับนักเตะ 2 ชุด คือ เมื่อชุดแรก (28 คน) เดินทางไปถึงก็ขึ้นรถเข้าโรงแรมที่พักได้เลย ขณะที่ชุดสอง (18 คน) ก็มีรถอีกคันมารอรับ ทำให้ไม่ต้องรอกันที่สนามบิน

ส่วนความคืบหน้าการถ่ายทอดสดเอเชียนคัพในไทย ที่ยังไม่มีเจ้าใดซื้อลิขสิทธิ์ และเมื่อวันที่ 10 ม.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ระบุว่าจะไปติดตามรายละเอียด

“กีฬาเดลินิวส์” ได้รับรายงานว่า หลังจากที่ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่ากระบวนการการพยายามซื้อลิขสิทธิ์เอเชียนคัพ ที่เคยนิ่งๆ เงียบๆ กลับมาถูกกระตุ้นอีกครั้ง มีการสอบถามราคาไปยังเอเจนซี่กับเอเอฟซี ถ้าจะประเมินสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ต้องบอกว่ามีโอกาสดีขึ้นอย่างชัดเจน ที่คนไทยจะได้ดูทางฟรีทีวี ซึ่งในส่วนของค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดนั้น สามารถซื้อแยกเฉพาะคู่ของไทยได้ โดยราคาสำหรับรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดของไทยนั้น รายงานข่าวระบุว่า ตอนนี้คุยกันจนดึงลงมาอยู่ที่เพียง 10 ล้านบาทต้นๆ แล้ว หลังจากเคยเปิดมาที่ 20 ล้านบาท ซึ่งการเจรจา ข้อสรุปนั้น คาดว่าจะจบภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่า มีโอกาสที่สถานีที่จะได้ถ่ายทอดสด น่าจะเป็น พีพีทีวี ช่อง 36 แต่ยังไม่มีการยืนยัน.