นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยเป้าหมายการทำงานของแม็คโคร ในการเติบโตไปพร้อมกับการสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรรายย่อยที่เป็นคู่ค้า ให้พัฒนาสินค้าและผลผลิตสู่มาตรฐาน ทำให้เจ้าของธุรกิจรายเล็ก รายกลาง ได้รับโอกาสการขยายตัวไปพร้อมกันกับเรา
“ซัพพลายเออร์ที่เป็นเอสเอ็มอี เกษตรกร และลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อย มีส่วนสำคัญที่ทำให้แม็คโครเติบโตจนถึงวันนี้ ด้วยการทำงานอย่างเข้าใจ ทำให้เอสเอ็มอีและเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ กว่า 7,500 ราย รวมทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยทั้ง ร้านค้าปลีก โชห่วย ร้านอาหาร ฯลฯ ได้รับโอกาสที่มากไปกว่า การซื้อมาขายไป แต่ยังจะได้รับคำชี้แนะแนวทางการพัฒนา ต่อยอด โดยมีแม็คโครเป็น คู่คิดธุรกิจ และพี่เลี้ยงที่มีระบบนิเวศน์และการกระจายสินค้าแบบผสมผสาน ทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) เข้าด้วยกัน”
นางศิริพร กล่าวอีกว่า “แม็คโครให้ความสำคัญกับพื้นฐานการทำงานที่ว่าด้วย คุณภาพ ความปลอดภัย และความถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล เป็นเรื่องสําคัญสูงสุด เราได้คัดสรรสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาขายส่ง เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อยในทุกกลุ่มของเรา สามารถลดต้นทุน ประกอบธุรกิจได้อย่างมีกําไร และเติบโต อย่างยั่งยืน”
“ในทุกช่วงเวลาแห่งการเติบโต แม็คโครไม่ได้เป็นคู่คิดทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข ที่คอยเคียงข้างในการพัฒนา เสริมทักษะความรู้ด้านการตลาด พฤติกรรมการบริโภคในแบบวิถีใหม่ อาทิ การส่งเสริมการทำผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานแช่แข็ง ในขนาดบรรจุที่เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่”
สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย โชห่วย จำนวน 500,000 ราย และ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่มีอยู่กว่า 300,000 ราย แม็คโครได้ตั้ง โครงการแม็คโคร มิตรแท้โชห่วย และ แม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี ขึ้นมาดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมาแบ่งปันกับผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างทั้งยอดขาย ทำรายได้ และการขยายธุรกิจให้เติบโต
กลายเป็นเครือข่ายคนทำธุรกิจรายเล็กที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างเหนียวแน่น
“แม้ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากยุคโควิด-19 ธุรกิจรายเล็ก เกษตรกรเดือดร้อน เราก็ทำทุกวิถีทางที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเข้าไปช่วยเหลือรับซื้อผลผลิตที่ประสบปัญหา ร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ช่วยกันลดราคาสินค้าให้ผู้ประกอบการไม่ต้องแบกภาระต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมสภาพคล่องให้มีกำหนดระยะเวลาการชำระสินค้า (Credit Term) แก่เกษตรกรรายย่อย ไม่เกิน 30 วัน ก็ทำให้หลายธุรกิจมีกำลังเดินต่อไปได้ ” นางศิริพร กล่าว
นอกจากนี้ แม็คโครยังไม่หยุดที่จะพัฒนาศักยภาพและต่อยอดธุรกิจให้เอสเอ็มอีเติบโตและขยายตลาดในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีมากกว่า 100 รายการถูกนำไปวางจำหน่ายผ่านสาขาของแม็คโครใน กัมพูชา และเมียนมา และมีอีกหลายรายที่กำลังจะดำเนินรอยตาม