30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายที่เมื่อเกิดแล้ว ประชาชนไม่ยอมให้ยกเลิก มีชมรมคนรัก 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐบาลไหนจะเททิ้ง ย่อมได้ศัตรูเพิ่มตัวเป็น ๆ แน่ มันคือ นโยบายดีสุดของพรรคไทยรักไทย ที่ทำให้คนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลแบบเสมอหน้า มีศักดิ์ศรี ไม่ต้องเป็นคนไข้ “อนาถา” ที่ฟังแล้วน่าสมเพช แต่นโยบายนี้ก็เกือบไม่ได้อุแว้ หมอสงวน นิตยรัมพงศ์ เจ้าของ “ไอเดีย” เคยนำนโยบายนี้ไปขายหลายพรรค พรรคเก่าแก่ ประชาธิปัตย์ ก็ไม่ซื้อ เพราะไม่เชื่อว่าจะทำได้ ถึงขนาดเคยพูดประชดในสภาเป็น 30 บาทตายทุกโรค มาแล้ว
ในพรรคไทยรักไทยเอง ถึงอดีต นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ตอนเป็นหัวหน้าพรรคจะเอาด้วย แต่ตอนหาเสียง ก็เกือบถูกเก็บเข้าลิ้นชัก คนไทยรักรักไทย กลัวทำไม่ได้ แล้วจะโดนด่าเละเทะ จนหมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ซึ่งตกผลึกทางความคิดกับหมอสงวนแล้ว ต้องโน้มน้าวอย่างแรงจนที่สุด 30 บาทรักษาทุกโรค ได้กลายเป็นนโยบายใช้หาเสียง และกลายเป็นหนึ่งใน นโยบายที่อยู่ในดวงใจของคนไทยตั้งแต่นั้น
แต่อย่างที่รู้ปฏิวัติทีไร มีความพยายามจะเลิกทุกครั้ง เปลี่ยนชื่อบ้าง จ้องตัดงบบ้าง รัฐบาล 3 ป. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เคยประกาศว่า เป็นภาระแผ่นดิน กระตุ้นให้คนอยากมาโรงพยาบาล มากขึ้น แต่พอ “ยูเอ็น” ยกย่องให้ไทยเป็นต้นแบบหลักประกันสุขภาพของโลก พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไปยืนพูดในยูเอ็นอย่างภาคภูมิใจ ลืมสิ้นที่เคยพูดไว้
รัฐบาลที่มี เพื่อไทย เป็นแกนนำ รู้ดีถึงอานุภาพของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคดีสุดว่า ทรงพลังเพียงใด นอกจากย้อนไปใช้ชื่อเดิม 30 บาทรักษาทุกโรคแล้ว ยังยึดกระทรวงสาธารณสุขคืน เอามาพัฒนาให้ดีขึ้นอีก แฟร์ ๆ ตอน อนุทิน ชาญวีรกูล ดูกระทรวงนี้ ก็พยายามยกระดับ ดึง “หมอเลี้ยบ” มาให้คำปรึกษา จนกรณีฉุกเฉิน คนไข้วิกฤติ เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลรัฐ เป็นต้น ถึงตอนนี้ 30 บาทรักษาทุกโรค ตอนแรกจะเป็น 30 บาท Plus แต่ไป ๆ มา ๆ เป็น 30 บาท Pro คือ
บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่
อาทิตย์ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ยกขบวนคิกออฟ 30 บาทโปร ที่ร้อยเอ็ด มี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปด้วย ไปทำไม คนถาม ก็เพราะเป็นรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติด้วย (นอกจากเป็นรองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ) พร้อม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กับ นายอนุทิน ท่ามกลางผู้คนล้นหลาม
นายกฯเศรษฐา พูดถึงการต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวว่า เพราะเห็นความสำคัญของเวลา และคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงนำเทคโนโลยีมายกระดับการบริการ (เช่น เทเลเมดิซีน การรักษาทางไกล) โดยยังคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว ลดเวลาที่ต้องไปรอหมอที่โรงพยาบาล (จะหาหมอโรงพยาบาลรัฐ บางแห่งต้องไปเช่าโรงแรมหรือหอพักเพื่อจะได้เอาบัตรคิวแรก ๆ) ลดความแออัดของคนไข้ในโรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชาชน เป็นต้น
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 7 ม.ค. 2567 30 บาทโปร จะเริ่มใน 4 จังหวัดที่พร้อมก่อนคือ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส เป็นการสานต่อโครงการที่ดีมากคือ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นตอบโจทย์ตามยุคสมัยที่เปลี่ยน
ไป ไม่ลืมขอบคุณหมอสงวน หมอเลี้ยบ และอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ทำคลอดนโยบาย
ด้านหมอชลน่าน เสริมว่า ใน 4 จังหวัดนำร่อง ประชาชนเข้าโรงพยาบาลของรัฐทุกสังกัดได้ รวมทั้ง โรงพยาบาลเอกชน คลินิกและร้านขายยา (หากโรคไม่ร้ายแรง ปรึกษาหมอทางเทเลเมดิซีนแล้ว รับยาได้ที่ร้านขายยา) ที่เข้าร่วมโครงการได้ ตอนนี้มีประชาชนลงทะเบียนใช้บริการที่ “แอปหมอพร้อม” นับล้านคน
โดยในเดือน มีนาคม 67 30 บาทโปร จะขยายเพิ่มอีก 8 จังหวัด ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 2 เพชรบูรณ์ เขตสุขภาพที่ 3 นครสวรรค์ เขตสุขภาพที่ 4 สิงห์บุรี เขตสุขภาพที่ 6 สระแก้ว เขตสุขภาพที่ 8 หนองบัวลำภู เขตสุขภาพที่ 9 นครราชสีมา และเขตสุขภาพที่ 10 พังงา หลังจาก 30 บาทโปร ทำไประยะหนึ่งจะมีการสรุปและประมวลผลว่ามีอุปสรรค จุดอ่อน จุดแข็ง ยังไง เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ใด ๆ คือ หากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท มีขวากหนามเกินจะฝ่า เสนอให้ เอาเงิน 5 แสนล้านที่จะแจกมาต่อยอดโครงการ 30 บาทโปรเถอะ 30 บาทรักษาทุกโรค จะได้ทรงพลังมากขึ้นและอยู่ในดวงใจคนไทยตลอดกาล
——————-
ดาวประกายพรึก
