เมื่อวันที่ 7 ม.ค.67 ที่ จ.อุทัยธานี ชาวบ้านกว่า 100 คน มารวมตัวกัน พร้อมติดป้ายประกาศร้องเรียนผู้ใหญ่บ้าน หลังส่อแววไม่โปร่งใสในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเก็บเงินฌาปนกิจศพของชาวบ้านไปล่วงหน้าเป็นยอดเงินกว่า 140,000 บาท และยังมีเรื่องอื่นๆ อีก จึงอยากให้ทางผู้ใหญ่บ้านรายนี้ออกมาชี้แจงเหตุผล ซึ่งวันนี้ที่ตรงกับวันประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านมาทวงถามเรื่องดังกล่าว แต่กลับไร้เงาของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวออกมาชี้แจง ซ้ำยังติดต่อไม่ได้ จึงทำให้ทางกลุ่มชาวบ้านนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก ก่อนพากันเดินทางไปร้องเรียนดังกล่าว

ตัวแทนชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมร้องเรียน เปิดเผยว่า วันนี้ตนและชาวบ้านตัดสินใจพากันมาถือป้ายทวงถามขอให้ผู้ใหญ่บ้านออกมาชี้แจงเรื่องเงินโครงการต่างๆ ในหมู่บ้านที่ส่อแววไม่โปร่งใสในหลายๆ เรื่อง เริ่มตั้งแต่เรื่องของเงินฌาปนกิจศพที่เก็บล่วงหน้าไปศพละ 500 บาท 2 ศพ รวมเป็นเงิน 140,000 บาท และอีกหลายๆ โครงการ แต่เรื่องที่อยากรู้มากที่สุดตอนนี้ก็คือเรื่องเงินฌาปนกิจศพที่ทางผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านได้เก็บเงินล่วงหน้าชาวบ้านไปคนละ 500 บาท ซึ่งในหมู่บ้านนั้นมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 147 คน ซึ่งจะทำให้มีเงินกองทุนก้อนนี้อยู่ทั้งหมด 140,000 บาท แต่พอมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต ก็มีการมาเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านใหม่อีกรอบ แต่กลับจ่ายเงินให้กับสมาชิกไม่ครบ โดยให้เหตุผลอ้างว่ารอเก็บยอดเงินใหม่ จึงทำให้ชาวบ้านนั้นพาสงสัย

“โดยที่ประชุมเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ผู้ใหญ่บ้านยังได้ยอมรับด้วยตัวเองว่า ได้นำเงินไปใช้ 100,000 บาท และอีก 40,000 บาท นั้นอยู่ที่กรรมการอีก 3 คน โดยขอให้ชาวบ้านนั้นรอวันที่ 30 ธันวาคม 2566 จะนำเงินมาเคลียร์ปัญหาทั้งหมดให้ แต่ก็เงียบหาย โดยในวันนี้ก็เป็นวันที่ประชุมประจำเดือนที่ทางผู้ใหญ่บ้านเองได้นัดหมายกับชาวบ้านไว้เอง แต่ผู้ใหญ่บ้านนั้นก็ไม่มาตามที่แจ้งไว้ ซ้ำยังโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ยอมรับสายอีกด้วย หากผู้ใหญ่บ้านนั้นเคลียร์ปัญหาในเรื่องเงินเงินฌาปนกิจได้ก็จบลงด้วยดี เพราะชาวบ้านทุกคนก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนผู้ใหญ่บ้านหรือปลดผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างไร ขอเพียงแค่ผู้ใหญ่บ้านนั้นมีคำตอบในเรื่องที่ร้องมาอย่างสมเหตุสมผลก็พอ” ชาวบ้านกล่าว

นายสุวรรณ คูณป้อง อายุ 58 ปี กำนันตำบลลานสัก เดินทางเข้ามาพูดคุยกับชาวบ้าน ก่อนให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ทางนายอำเภอลานสัก รับรู้ปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ตนเป็นตัวแทนในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งสาเหตุที่ชาวบ้านเกิดการร้องเรียนน่าจะมาจากที่ในหมู่บ้านเกิดปัญหายืดเยื้อกันมานาน และทางผู้ใหญ่บ้านผลัดการให้คำตอบที่ชัดเจนกับชาวบ้านแล้วหลายครั้ง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าเกิดความไม่โปร่งใสขึ้นตามมา โดยเฉพาะเรื่องเงินฌาปนกิจที่เป็นปัญหาหลัก

ซึ่งวันนี้ตนได้อธิบายเรื่องการตรวจสอบทั้งตัวโครงการ และตัวผู้ใหญ่บ้านให้ชาวบ้านได้เข้าใจว่าต้องใช้ระยะเวลาไม่ใช่แค่เพียงการตรวจสอบอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยในข้อกฎหมายมาตรวจสอบหรือมีการตั้งกรรมการขึ้นมาด้วย จึงต้องรอให้ทางผู้ใหญ่บ้านมาอยู่ด้วยในที่ประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ด้วยในวันนี้ที่ผู้ใหญ่บ้านไม่มาประชุมตามนัดนั้น เนื่องจากติดภารกิจที่ทางอำเภอให้ไปทำอยู่

ส่วนชาวบ้าน หลังจากที่ทราบว่า ผู้ใหญ่บ้านทำภารกิจ ที่อำเภอลานสักสั่งอยู่ ก็พากันยกกลุ่มไปร้องเรียนกันถึงหน้าที่ว่าการอำเภอลานสัก ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้ทาง นายธีรเชษฐ์ ศรทองอินทร์ ปลัดอำเภอลานสัก นั้นต้องออกมาอธิบายและชี้แจงให้ชาวบ้านฟังว่าผู้ใหญ่บ้านนั้นไม่ได้อยู่ที่อำเภอแต่อย่างใด และในตอนนี้ทางอำเภอนั้นได้รับเรื่องของชาวบ้านไว้แล้ว และขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยหากตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วผลออกมาว่าผู้ใหญ่บ้านนั้นผิดจริง ทางนายอำเภอสามารถสั่งลงโทษได้โดยตรงรวมถึงทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็สามารถสั่งลงโทษได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งหลังจากที่ทางปลัดอำเภอลานสักนั้นได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านจนยอมรอฟังผลการตรวจสอบแต่โดยดี