สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่า สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโดยใช้โดรน สร้างความเสียหายให้กับอาคารหลังหนึ่ง ในเขตทางตอนใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นสำนักงานของกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย คือ นายซาเลห์ อัล-อารูรี รองผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือคือเจ้าหน้าที่อารักขาของฮารูรี
ด้านกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ ยืนยันการเสียชีวิตของอารูรี และเน้นย้ำว่า “จะไม่ใช่ลางบอกเหตุของความพ่ายแพ้” และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์ว่า การเสียชีวิตของอารูรี “ต้องมีคำตอบ”
ส่วนนายนาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “ต้องการนำเลบานอนเข้าสู่สงครามในฉนวนกาซา” ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
ขณะที่ พล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงว่า “ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลพร้อมขั้นสูงสุด ในการรับมือกับทุกเหตุการณ์นับจากนี้” ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า การเสียชีวิตของอารูรีอาจยิ่งเพิ่มความรุนแรง ให้กับการสู้รบในฉนวนกาซา
อีกด้านหนึ่ง กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 70 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน
นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสส่งคณะผู้แทนเยือนกรุงไคโร เพื่อหารือกับอียิปต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนกลาง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการหยุดยิงครั้งใหม่ ซึ่งมีรายงานว่า รัฐบาลไคโรเสนอแผนสงบศึก 3 ขั้นตอน เพื่อนำไปสู่การปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออีกมากกว่า 120 คน และการหยุดยิง “ในระยะยาว” แต่ยังไม่มีฝ่ายใดตอบรับ
อีกด้านหนึ่ง สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์ทวีความรุนแรง คู่ขนานกับสงครามในฉนวนกาซา มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 320 ราย และมีผู้ถูกจับกุมอีกหลายพันคน จากการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ปฏิบัติการ “ต่อต้านการก่อการร้าย”.
เครดิตภาพ : AFP