ปี 2566 เป็นอีกหนึ่งปีที่ทัพนักกีฬาไทย ในหลายๆ ชนิดกีฬา ทำผลงานยอดเยี่ยมโดนอกโดนใจแฟนกีฬาชาวไทย นอกจากนี้ยังมีประเด็นร้อนที่เป็น “ดราม่า” ให้ต้องถกเถียงในโลกโซเชียลกันในหลายเรื่องอีกด้วย

ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ สรุปประเด็ดประเด็นเด่นโดนใจในรอบปี 2566 เรื่องแรกคงต้องยกให้ผลงานของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทีมกีฬาเบอร์ 1 ของไทยในเวลานี้ ซึ่ปีนี้ “นักตบสาวไทย” โชว์ฟอร์มแรงแบบไม่พัก ทั้งการคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ต่อด้วยแชมป์ซีวีลีก 2023 ทั้ง 2 สนาม

ก่อนที่จะมาผงาดแชมป์เอเชีย สมัยที่ 3 ที่โคราช มาครอง ฝั่งศึกเนชันส์ลีก 2023 และศึกชิงแชมป์โลก ก็เล่นได้อย่างประทับใจกองเชียร์ทั้งไทยและต่างชาติอย่างยิ่ง ก่อนที่พวกเธอจะปิดจ๊อบด้วยการคว้าเหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2022 ได้อย่างสะใจ

ต่อมาคือ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวขวัญใจคนไทย เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ปีนี้ยังระเบิดฟอร์มเฉียบขาดตามมาตรฐานของตัวเอง ด้วยการสร้างประวัติคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ สมัยที่ 2 มาครอง

นอกจากนี้ยังเป็นจอมเตะหญิงที่ครองแชมป์รายการใหญ่อย่าง “เวิลด์กรังด์ปรีซ์” มากที่สุดในโลก รวม 12 รายการ อีกด้วย เรียกได้ว่า “หนูนิส” ยืนหนึ่งบนเวทีโลกอย่างแท้จริง

“เจ้าบิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดดาวรุ่งอนาคตไกล ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง แม้ในซีเกมส์ 2023 “เจ้าบิว” จะได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุก พลาดเหรียญทอง วิ่ง 100 เมตรชาย ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มาแก้ตัวสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญเงิน ในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จีน ได้สำเร็จ นับเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนไทยในเวทีโลก

จากประเด็นเด่นมาถึงเรื่องดราม่ากันบ้าง เบอร์ 1 คงหนีไม่พ้นกรณีที่กัมพูชา ได้เคลมว่า “มวยไทย” มีต้นกำเนิดมาจาก “กุนขะแมร์” ส่งผลให้ไม่มีการจัด “มวยไทย” ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 พร้อมกับเป็นสงครามในโลกออนไลน์ ระหว่างคนไทยกับคนเขมร มาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนั้นยังลามไปถึง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนเขมร ซึ่งยอดนักมวยไทยขวัญใจชาวโลกออกมาโต้เดือดว่า ผมไม่ใช่คนเขมร ผมเป็นคนไทย เป็นชาวสุรินทร์ เชื้อสายกูย ดังนั้นหยุดมโนกันได้แล้ว ซึ่งนอกจากบัวขาวแล้ว ยังมีคนเด่นคนดังของไทย ที่ถูกเคลมจากชาวเน็ตกัมพูชาว่าเป็นคนเขมรอีกด้วย ซึ่งทั้งหลายทั้งมวลไม่ได้เป็นความจริงแต่ประการใด

ประเด็นร้อนก็คือเรื่องของ “การหักหัวคิว” เงินรางวัลนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ที่ “สารวัตรโจ้” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ออกมาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ต่อสู้เพื่อน้องๆ นักกีฬาทั้งอดีตและปัจจุบัน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

เรื่องนี้ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ นายกตะกร้อคนใหม่ ไม่ได้นิ่งนอนใจะพร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนบทสรุปจะจบอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป

ขณะที่ ดราม่าสดๆ ร้อนๆ ที่เพิ่งเป็นข่าวใหญ่ไปก็คือ “โม้อมตะ” สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกฮีโรเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ คนแรกของไทย ที่เจอข้อหาพรากผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 17 ปี เข้าไปเต็มๆ สมรักษ์ จะติดคุกหรือไม่ เรื่องนี้จะผิดถูกอย่างไร ก็คงต้องให้ศาลสถิตย์ยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินกันต่อไป


ปีหน้าฟ้าใหม่ 2567 วงการกีฬาไทยและโลก ยังเข้มข้นเหมือนเดิม เพราะถนนทุกสายสู่มุ่งหน้าไปสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในช่วงกลางนี้

แต่กว่าจะถึงวันนั้น นักกีฬาไทย แต่ละชนิดกีฬา ก็ต้องฝ่าด่านหิน เพื่อคว้าโควตาให้ได้เสียก่อน ซึ่งขณะนี้เรามีนักกีฬาที่หยิบตั๋วไป “ปารีสเกมส์” ได้แล้วดังนี้ เบญญาภา จันทวรรณ (ไคต์บอร์ด), โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน (ไคต์บอร์ด), ภูริช โยเฮือง (ปัญจกีฬา), ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (มวยสากล ชาย), จุฑามาศ รักสัตย์ (มวยสากล หญิง), ธนัญญา สมนึก (มวยสากล หญิง), จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล เงิน), ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน ประเภทปืนสั้น 25 เมตร หญิง)

โกเมธ สุขประเสริฐ (จักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ชาย) ส่วนที่ได้โควตาเป็นที่แน่นอนแล้ว แต่ยังไม่ระบุชื่อนักกีฬา ได้แก่ จักรยานประเภทถนน โรดเรซชาย, จักรยานประเภทถนน โรดเรซหญิง, จักรยาน ประเภทไทม์ไทรอัลหญิง, ชนกภรณ์ การุณยธัช (ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง รอประกาศอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค.67), โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ (เรือใบ ประเภท ILCA6), อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค (เรือใบ ประเภท ILCA7)

ที่นี้เรามาดูโอกาสและความหวังกันบ้างว่า โอลิมปิกเกมส์ 2024 หนนี้ เราพอจะมีลุ้นหยิบเหรียญจากใครกันบ้าง

ความหวังอันดับ 1 คงหนีไม่พ้น “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวรุ่น 49 กก.หญิง ที่ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 2 ก่อนจะปิดฉากอำลาทีมชาติลง

“น้องเทนนิส” คว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล ต่อด้วยเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ครั้งนี้จึงเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้ายของเธอ แน่นอนว่าความมุ่งมั่นและไฟในทรวงยังไม่มอดไหม้

“น้องเทนนิส” คือ หมายเลข 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก.หญิง และเป็นความหวังอันดับ 1 ของคนไทย แต่ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เพราะว่าในรุ่นนี้ต้องบอกว่าฝีมือแต่ละคนใกล้เคียงกันไม่น้อย แม้สาวไทย จะปราบมาหมดแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะแบร์เบอร์แต่อย่างใด

ก็อยู่ที่ว่าเมื่อถึงเวลานั้น “น้องเทนนิส” จะมีสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์แค่ไหน เนื่องจากตอนนี้ก็มีปัญหาการบาดเจ็บรวบกวนอยู่ แต่เรื่องของสภาพจิตใจไม่ต้องห่วง เพราะเกินร้อยอยู่แล้ว

นอกจาก พาณิภัค แล้ว เทควันโดไทย ยังต้องไปควอลิฟาย เพื่อลุ้นโควตากันอีก 3 รุ่น ส่วนจะได้หรือไม่นั้นก็ต้องติดตามกันต่อไป

เช่นเดียวกับทีมนักตบลูกยางสาวไทย ที่แฟนกีฬาชาวไทย ต่างเฝ้ารอให้พวกเธอสร้างประวัติศาสตร์ ไปลุยโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกให้ได้เสียที หลังจากพลาดโอกาสต้องมาแล้วหลายครั้ง

โดยทีมนักตบสาวไทย ที่รั้งอันดับ 13 ของโลก และเป็นลูกรักของทั้ง FIVE รวมทั้ง Volleyball World จะต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ชนะและเก็บแต้มในศึกเนชันส์ลีก 2024 ทั้ง 3 สนาม ในปีหน้า ให้ได้มากที่สุด จากนั้นค่อยไปลุ้นกันอีกทีว่าท้ายที่สุดแล้วน้องๆ ชุดนี้และคนไทยจะสมหวังดังใจหรือไม่

ส่วนกีฬาอื่นๆ ซึ่งเป็นกีฬาความหวังของคนไทยอย่าง มวยสากล, ยกน้ำหนัก, แบดมินตัน, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, กรีฑา, เทเบิลเทนนิสฯ ยังอยู่ในช่วงของการทำอันดับโลกในการควอลิฟายในรายการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งทุกสมาคมกีฬาและนักกีฬาทุกคน ต้องทุ่มเทกันอย่างสุดกำลัง เพื่อโอกาสในการเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่เข้าร่วมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติหนนี้

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จะแข่งขันต่อจากโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งมหกรรมนี้เป็นเวทีที่ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย พร้อมจะเขย่าบัลลังก์เหรียญทอง ดั่งที่เคยฝากผลงานอันเกรียงไกรมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้ “ทัพพาราไทย” หยิบตั๋วไปปารีสแล้วหลายคน และยังมีลุ้นในอีกหลายๆ ประเภทเช่นกัน

การควอลิฟายเข้ารอบไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 รอบสุดท้าย ว่ายากแล้ว แต่การที่จะหยิบเหรียญใดเหรียญหนึ่งมาครองนั้น ต้องบอกว่ายากยิ่งกว่า การไปยืน 1 ใน 3 บนโพเดียมรับเหรียญ จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของนักกีฬาเท่านั้น

แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไล่ตั้งแต่สมาคมกีฬาต้นสังกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ตลอดจน “น้ำเลี้ยง” จากภาคเอกชน ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทุกฝ่ายจะต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “กำลังใจ” จากคนไทยทั้งประเทศนั่นเอง

“ปารีสเกมส์ 2024” คนไทยจะได้ร้องไชโยดังๆ จะได้เห็นคราบน้ำตาจากความสำเร็จหรือความผิดหวังของนักกีฬาไทย จะกลางปีนี้ได้รู้กัน

ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์