นายประสิทธิ์ สาขา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า แขวงฯ ร่วมประชุมหารือในโครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนสวยงาม (ถนนสีชมพู) บริเวณทางหลวงหมายเลข 213 ตอนสกลนคร-อ.ภูพาน จ.สกลนครเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทางให้สวยงาม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ผู้สัญจร และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยมี นายพูนศักดิ์ วาณิชวิเศษกุล รอง ผวจ.สกลนคร เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม การประชุมครั้งนี้ เนื่องจาก จ.สกลนคร ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด โดยมีแผนพัฒนาบริเวณพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ และโค้งปิ้งงู ตั้งอยู่กลางเทือกเขาภูพาน ทล.213 ตอนสกลนคร-อ.ภูพาน เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่จังหวัด โดยมี 3 โครงการดังนี้
1.โครงการสร้างหอชมเมืองประดิษฐานรูปปั้นจำลอง ร.9 ขนาด 36 เมตร เพื่อใช้เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา รอบเมืองสกลนคร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงคำหอม แนวคิดการออกแบบมาจากฐานรองก้นบาตร ที่เป็นเครื่องเรือน เครื่องจักสานไม้ไผ่ โดยรูปทรงภายนอกจะแสดงถึงวิถีพื้นถิ่นชาวสกลนคร ส่วนภายในจะเป็นทรงเกลียว เพื่อให้ผู้มาใช้บริการสามารถเดินชมวิวแบบ 360 องศาได้ทุกๆ ชั้น
ขณะที่ปลายยอดจะเป็นรูปปั้นจำลอง ร.9 ซึ่งขณะนี้จังหวัดได้รับงบประมาณในปี 65 จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างหอชมเมืองแล้ว คาดว่าจะเสร็จในปี 65 ส่วนตัวส่วนรูปปั้นจำลอง ร.9 จะใช้งบประมาณจากมูลนิธิ ชาตกาล 150 ปี หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เพื่อมาดำเนินการสร้างต่อไป
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า 2.ปรับปรุงภูมิทัศน์โค้งปิ้งงู บริเวณหมวดทางหลวงคำหอม ขณะนี้แขวงฯ ได้รับงบประมาณปี 65 จำนวน 14 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดสวนเป็นรูปแบบคล้ายเลขเก้าไทย โดยใช้ต้นไม้ที่มีขนาดเติบโต พร้อมออกดอกได้ภายใน 1-2 ปี เน้นต้นไม้ที่มีดอกสีชมพู ได้แก่ ชมพูพันธุ์ทิพย์ กัลปพฤกษ์ และต้นคูนชมพู
ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 65 เมื่อดอกบานสะพรั่งสีชมพูสวยงามจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม สอดรับกับการสร้างหอชมเมืองแล้วเสร็จ หากเปิดใช้หอชมเมืองเมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นโค้งปิ้งงูมีความเป็นเลขเก้าไทยที่ชัดเจนมากขึ้น สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว
นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า และ 3.โครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนสวยงาม (ถนนสีชมพู) บน ทล.213 ตอนสกลนคร-อ.ภูพาน ซึ่งจังหวัดมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปลูกต้นไม้บนสายทางดังกล่าว จุดเริ่มที่รอยต่อเขตเทศบาลนครสกลนครจนถึงโค้งปิ้งงู ระยะทาง 15 กม. โดยต้นไม้ที่ปลูกเน้นชนิดที่มีดอกสีชมพู โดยเฉพาะชมพูพันธุ์ทิพย์ เพราะชมพูพันธุ์ทิพย์จะออกดอกช่วง ม.ค.-เม.ย. ของทุกปี และเป็นช่วงไฮซีซั่นของ จ.สกลนคร มีประชาชนมาท่องเที่ยวตามสถานที่ยอดฮิตจำนวนมาก เช่น สักการะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, พญาเต่างอย และ วัดถ้ำผาแด่น
สำหรับโครงการนี้จะไม่ใช้งบประมาณ เนื่องจากขอรับการสนับสนุนพันธุ์ไม้ เช่น ชมพูพันธุ์ทิพย์ จากกรมป่าไม้ เพื่อนำมาแจกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปลูกในแต่ละพื้นที่ตามแนวเส้นทาง พร้อมทั้งช่วยกันดูแลรักษาให้ต้นไม้เติบโตจนกว่าจะออกดอก คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปี ต้นไม้ที่ปลูกไว้จะออกดอก ส่งผลให้เส้นทางผ่านพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์มีสีชมพู และเป็นถนนแห่งความรักในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ต่อไป
ขอบคุณภาพจาก : แขวงทางหลวงสกลนครที่ 1