หลุยส์ เอ็นริเก ผู้จัดการทีมชาติสเปน ยืนยันว่าตนไม่มีอะไรต้องบ่นไม่พอใจ แถมยังต้องแสดงความชื่นชมนักเตะด้วยซ้ำที่ได้พยายามอย่างหนักมาตลอด แม้ "กระทิงดุ" มาได้ไกลเพียงแค่รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020 หลังพ่ายการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี 4-2 หลังจากเสมอใน 120 นาที 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เฟเดริโก เคียซา ยิงให้ "อัซซูรี" ขึ้นนำก่อนนาที 60 ก่อนที่ อัลบาโร โมราตา ที่เป็นตัวสำรองยิงตีเสมอในนาที 80 จากนั้นไม่มีประตูอีกจนต้องยิงจุดโทษ โมราตา ที่เป็นคนยิงลำดับ 4 ยิงไม่เข้า ก่อนที่ จอร์จินโญ คนสุดท้ายของอิตาลียิงเข้าไปอย่างใจเย็น

“มันไม่ใช่คืนที่เศร้าสำหรับผม ไม่เลย” เอ็นริเก กล่าวในการแถลงข่าว “แน่นอนว่ามีความผิดหวังอยู่บ้าง แต่นี่คือฟุตบอลชั้นยอด คุณต้องเรียนรู้ที่จะชนะและแพ้ เราได้พูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับวิธีการเล่น นักเตะมีความเชื่อมั่น และผมทำได้แค่ยินดีกับพวกเขา ผมไม่มีอะไรต้องบ่น เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ตอนนี้สิ่งสำคัญคือพักฟื้น จากนั้นจะได้เจอกันอีกก่อนรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก”

อดีตโค้ชบาร์เซโลนา ยังชื่นชมเป็นพิเศษต่อเปดรี มิดฟิลด์บาร์ซา วัย 18 ปี ที่ส่งบอลสำเร็จ 56 ครั้งใน 90 นาที ซึ่งมีเพียง ซามูเอล อุมติตี ของฝรั่งเศส ที่ผ่านบอลสำเร็จ 100% นับแต่ยูโร 1980

“ไม่มีเด็กอายุ 18 คนไหนทำได้อย่างเขา ไม่ว่าฟอร์มการเล่น ความเข้าใจบทบาท การหาพื้นที่ว่าง คุณภาพและลักษณะของเขา ผมไม่เคยเห็นใครทำได้แบบเขา”

ขณะเดียวกัน เอ็นริเก เผยว่า โมราตา มีปัญหาเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านใน แต่ต้องการยิงจุดโทษ แม้ยิงไม่เข้าแต่มันก็บ่งบอกได้คุณลักษณะของเจ้าตัวว่า “เขาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากระหว่างทัวร์นาเมนต์และเขาทำได้สุดยอดมากทุกนัด”