เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังพร้อมหมายศาลอาญาบุกเข้าตรวจค้นโรงแรมไอวิซ ย่านงามวงศ์วาน ภายหลังจากสืบทราบว่าที่โรงแรมแห่งนี้ บริเวณชั้น 8 และชั้น 9 ถูกเปิดเป็นบ่อนพนันขนาดใหญ่ ว่า ภายหลังที่ได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างรอรายงานผล เมื่อถามว่าบ่อนดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลต่างชาติกลุ่มไหนหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีความเชื่อมโยงกับการจับกุมผับจินหลิง เขตยานนาวาหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เมื่อถามถึงกรณีที่บ่อนพนันมีการเปิดให้บริการมานาน ตำรวจในท้องที่ถือว่าบกพร่องฐานปล่อยปละละเลยหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้วว่า ให้ตรวจตราเข้มงวดอย่าให้มีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ดังนั้นกรณีนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ดำเนินการทางปกครองกับหัวหน้าสถานีตำรวจในวาระการแต่งตั้งนี้เลย โดยไม่ให้มีคำสั่งมาช่วยปฏิบัติราชการ
ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ให้เร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หากพบว่าใครเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลย หรือได้รับผลประโยชน์ ต้องดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด แม้จะย้ายออกจากพื้นที่ก็ให้เอาผิดถึงที่สุด
เมื่อถามว่านักพนันต่างชาติรู้จักบ่อนนี้ได้อย่างไร ใครเป็นเจ้าของจะมีการเอาผิดถึงสถานที่ที่เป็นโรงแรมด้วยหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบประเด็นการเปิดรับสมาชิกแบบเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติไม่รับคนไทยด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขอให้รอฟังผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้หากการตรวจสอบของพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ พบหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ก็ต้องดำเนินคดีตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ทุกราย ไม่มีละเว้น