บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 20 ก.ย.64 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากความหวังการเปิดประเทศเริ่มลดลง หลังมีแนวโน้มว่าการเปิดประเทศต้องให้ประชาชนฉีดเข็มที่ 2 ครบ 70% ของประชากรในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งอย่างเร็วคือปลายเดือน ต.ค.นี้ และแรงกดจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจีน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,603.06 จุด ลดลง 22.59 จุด หรือ 1.39% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 85,013.63 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 546.87 จุด ลดลง 7.33 จุด หรือ 1.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5,568.83 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.กสิกรไทย กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,580-1,600 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,635-1,645 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 21-22 ก.ย.นี้ และ สถานการณ์โควิด-19 ประเด็นการเมืองในประเทศ ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. ของไทย ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน รวมไปถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเดือน ส.ค. เป็นต้น

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง -3.50 บาท

2.ปตท. ปิดที่ 39.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

3.เคซีอี ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

4.เอสซีจีพี ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง -2.50 บาท

5.บ้านปู ปิดที่ 12.30 บาท ลดลง -0.50 บาท