สิ่งที่ใช่จะมาในเวลาที่เหมาะสม เฉกเช่นเดียวกับจังหวะชีวิตของ เอ้-ชุติมา บวรรัตนโชติ หลังจากอิ่มตัวจากงานพีอาร์บริษัทเอเจนซี่ชื่อดังของเมืองไทยและตัดสินใจลาออก มาทำร้านอาหารสไตล์โฮมเมดร่วมกับสามี ภายใต้ชื่อ  “Sweet Pista” จากร้านเล็กๆ เพียง 4 โต๊ะ ตรงสุขุมวิท 31 เริ่มขยับขยายเป็น 10 โต๊ะ ก่อนจะยกย้ายทำเลใหม่มายัง Warehouse 30 และปัจจุบันเพิ่งเปิดคาเฟ่ขนมหวานเล็กๆ “Chutie Is Baking” กับคอมมูนิตี้มอลล์ โครงการเจริญ 43 อาร์ต & อีทเทอรี่

เอ้-ชุติมา บวรรัตนโชติ

คุณเอ้เกริ่นเล่าว่า “เอ้เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ทำงานมาร่วม 10 ปี ทุกอย่างมันคือจังหวะชีวิต ไม่ได้มีแพลนว่าเราต้องมาใฝ่ฝันจะมีร้านอาหาร งานพีอาร์สั่งสมประสบการณ์ให้เรามาใช้ในปัจจุบัน แม้จะเป็นคนละธุรกิจกัน ระหว่างทำงานเอเจนซี่ เอ้สร้างเพจขนมในเฟซบุ๊กขึ้นมา ทำงานและทำขนมควบคู่กัน ระยะแรกลูกค้าจะเป็นคนในออฟฟิศและลูกค้าของเอเจนซี่ พอลาออกจากงานประจำ บังเอิญเจอพื้นที่เล็กๆ ในซอยสุขุมวิท 31 คิดว่าขนาดเหมาะสมกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นมีร้าน เอ้ถนัดทำเค้ก ส่วนสามีถนัดด้านทำอาหาร”

ร้านแรกของเราสองคน ตั้งชื่อว่า “Sweet Pista” คำว่า “Pista” เป็นศัพท์เทคนิคของคนหลงใหลการขี่จักรยาน และสามีของเอ้ก็ชื่นชอบเช่นเดียวกัน จึงนำคำนี้มาตั้งเป็นชื่อร้าน สำหรับผลตอบรับค่อนข้างดีมาก ซึ่งรสชาติของอาหารและขนมน่าจะถูกปากคนเป็นส่วนใหญ่ ตลอดระยะเวลา 7 ปี ทำให้ต้องขยับขยายร้านถึง 3 ครั้ง จากเดิมมีเพียง 4 โต๊ะ ก็เพิ่มมาเป็น 10 โต๊ะ ก่อนจะตัดสินใจย้ายทำเลมาที่นี่ เพราะไม่อยากเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัด คุณเอ้กล่าว

ปัจจุบันร้านนี้ตรง Warehouse 30 เพิ่งฉลองอายุครบ 5 ปี ทว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน ร้านต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ไม่ต่างจากร้านอาหารอื่นๆ คุณเอ้เล่าว่า โชคดีที่พอเริ่มออกมาตรการให้นั่งกินในร้านได้ ลูกค้ากลับมาค่อนข้างเร็ว จังหวะนั้นโครงการเจริญ 43 อาร์ต & อีทเทอรี่ เริ่มก่อร่างสร้างตัวอยู่อีกฟากของถนน ขณะเดียวกันต้องการขยายครัวให้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากที่ Warehouse 30 พื้นที่ครัวค่อนข้างจำกัด จึงตัดสินใจเช่า เมื่อได้ห้องแถวสองห้องสุดท้ายของโครงการเจริญกรุง 43 เลยย้ายครัวขนมมาทำที่นี่ เกิดไอเดียอยากทำอะไรใหม่ๆ คิดว่าลองทำแบรนด์น้องโดยทำเป็นแบรนด์ขนมดีกว่า อีกทั้งตัวตึกมีความเก่าได้กลิ่นอายสไตล์วินเทจ มีความสงบ น่าจะใช้เป็นที่ทำงานเพื่อคิดสูตรขนมใหม่ๆ

ส่วนชื่อ “Chutie Is Baking” สมัยทำงานอาชีพพีอาร์ เพื่อนในวงการชอบเรียก “ชุตี้” เลยตั้งชื่อร้านเป็นประโยคไปเลย Chutie Is Baking คือ ชุตี้กำลังทำขนม ซึ่งเมนูส่วนใหญ่จะแตกต่างจากร้าน Sweet Pista โดยขนมหวานได้รับอิทธิพลจากขนมญี่ปุ่นมาผสมผสานกับสไตล์ของตัวเอง ทุกตัวค่อนข้างเป็นโฮมเมด อาทิ เลมอนทาร์ต, เค้กฟาเฟ่ ทั้งนี้ร้าน Chutie Is Baking จะมีขนมเค้กเป็นหลัก ไม่เน้นเครื่องดื่ม แต่จะมีกาแฟเป็นเบสิก รวมทั้งมีเครื่องดื่มตัวซิกเนเจอร์ที่ทำขึ้นมาเองก็คือ “Earl Gray Poison” แปลว่า “ยาพิษ” โดยนำเอาชาเอิร์ลเกรย์มาเคี่ยวเป็นไซรัป ดื่มคู่กับโซดาเหมือนดื่มโทนิกวอเตอร์ เรียกว่าสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

จังหวะดีที่มาเยือนในวันนี้ คุณเอ้เพิ่งคิดค้นสูตรและเพิ่งเปิดตัวเค้กตัวใหม่อย่าง “ฮัมมิ่ง เบิร์ด” หนึ่งในเค้กสไตล์วินเทจ ตั้งชื่อตามนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศจาเมกา เนื้อเค้กจะคล้ายกับแครอทเค้กคือเนื้อเค้กฉ่ำๆ แล้วมีฟรอสติ้งเป็นครีมชีส แต่ความต่างคือฮัมมิ่งเบิร์ดเค้กจะใส่กล้วยและสับปะรดแทน หอมกลิ่นอบเชย ใส่ถั่วอย่างพีแคนหรือวอลนัท

ส่วนผสมหลัก มี 3 ตัว ได้แก่ กล้วยหอมสุก, สับปะรด, และถั่ว (พีแคนผสมกับวอลนัท) นอกเหนือจากนั้นมี แป้งสาลี, เกลือ, เบกกิ้ง โซดา, ไข่ไก่, น้ำมันพืช และน้ำตาลทราย สำหรับสับปะรด คุณเอ้เลือกใช้แบบกระป๋อง เพราะสามารถควบคุมความเปรี้ยวหวานได้มากกว่าซื้อหาตามท้องตลาด

 วิธีทำ นำส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน ใส่พิมพ์แล้วอบเค้กโดยอบไฟล่างให้เนื้อเค้กค่อยๆ ดันสุกจากข้างล่างขึ้นไปด้านบน เค้กปกติทำแล้วผ่ากลาง แต่สูตรของคุณเอ้ทำเป็นเค้กสองชิ้นประกบกัน เนื่องจากมีส่วนผสมของถั่วและสับปะรด เวลาตัดแบ่งแล้วเนื้อจะไม่สวย แต่งหน้าด้วยครีมชีส ฟรอสติ้ง (ครีมชีส เลมอน ไอซิ่ง นมสด) ซึ่งลดทอนความหวานจากต้นตำรับ ปิดท้ายด้วยการโรยถั่ววอลนัทกับเฮเซลนัท.

ช้องมาศ พุ่มสวัสดิ์ : เรื่อง

ธนทัต จันทารักษ์ : ภาพ