ชุดข้อมูลนี้มีการเผยแพร่ไว้ผ่าน เว็บไซต์ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน โดยฉายภาพ “ปัจจัย-ตัวกระตุ้น” ที่ทำให้ “คนรุ่นใหม่เข้าสู่การพนันออนไลน์” รวมถึงสะท้อน “ปฏิกิริยา-ความรู้สึก” ที่คนรุ่นใหม่มีเมื่อพบเห็น “โฆษณาพนันออนไลน์” ซึ่ง “ช่องทางออนไลน์” คือ “ประตูใหญ่” ของปัญหานี้ จากการที่ “เข้าถึงได้ง่าย-เล่นได้สะดวก” รวมถึงยัง “มีการโปรโมต-มีรางวัลจูงใจ” ซึ่ง…

กระตุ้นให้ “เกิดนักพนันหน้าใหม่เพิ่ม”

จาก “ทดลองเล่น” ก่อนที่จะ “ถลำลึก”

ส่งผลให้ “ตลาดพนันออนไลน์ยิ่งโต!!”

ทั้งนี้ ในตอนนี้ก็จะสะท้อนต่อข้อมูลกรณี “ตลาดพนันออนไลน์ไทยยังขยายตัว” ทำให้ตลาดพนันตลาดนี้ “ยิ่งมีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล” โดยมาจาก “กลุ่มเป้าหมาย” คือ “เด็กและเยาวชนไทย” ที่มักมีการทดลองเล่นจากความอยากรู้ แต่สุดท้าย “ยิ่งเล่นยิ่งถลำลึก จนไม่สามารถถอนตัวจากวังวน” ดังกล่าวได้ ทำให้ต้องตกอยู่ในสภาพ “ทาสพนันรุ่นใหม่”

กลายเป็น “บ่อเงินใหญ่” ของ “เว็บพนัน”

ส่งผลทำให้ “เกิดปัญหามากมายตามมา”

เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหานี้ ในชุดข้อมูลโครงการศึกษาดังกล่าวยังได้มีการเผยผลสำรวจไว้ว่า… ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ใช้เวลาในโลกออนไลน์เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ชั่วโมง ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มตัวอย่าง 31.8% ใช้เวลาเล่นพนันออนไลน์เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่ใช้เล่นพนันออนไลน์จะแตกต่างกันไป มีทั้งใช้ช่วงพักกลางวัน ช่วงเวลากลางคืน และ บางส่วนระบุว่าเล่นพนันออนไลน์ขณะกำลังเรียนในห้องเรียน!! …นี่ก็เป็นผลสำรวจที่พบจากกลุ่มคนรุ่นใหม่…ที่ “ชวนอึ้ง!!”

และไม่เท่านั้น!! นอกจาก พนันออนไลน์ ที่คล้ายบ่อนแล้ว กลุ่มตัวอย่างจำนวนไม่น้อยยังเคย เล่นพนันออนไลน์ในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย เช่น พนันฟุตบอลออนไลน์ ลอตเตอรีออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่นิยมเล่นพนันออนไลน์นั้น นอกจากเรื่องความสะดวกแล้ว กับปัจจัย “มูลค่าเงินรางวัลสูง” “มีเครดิตให้เล่นก่อนจ่ายทีหลัง” “เสี่ยงถูกจับน้อยกว่า” นี่ก็ด้วย…

นี่ก็เป็น “ปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ” เช่นกัน

ทำให้ “คนรุ่นใหม่ริลองพนันออนไลน์!!”

ขณะที่ “ปัจจัย” ที่ทำให้ “เล่นแล้ว…เล่นอีก…” หลังทดลองเล่นครั้งแรกแล้ว ก็มาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่… มีระบบฝากถอนเงินรวดเร็ว, มีระบบปกปิดจึงมั่นใจจะไม่ถูกจับง่าย ๆ, มีโปรโมชันจูงใจมาก, มีเงินรางวัลสูงกว่าบ่อนหรือโต๊ะพนันทั่วไป, มั่นใจจะมีโอกาสชนะสูง, มีรูปแบบการแทงพนันหลากหลาย, ให้เครดิตวงเงินเพื่อเล่นก่อน รวมถึงมีคนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์มาโปรโมต ทำให้เว็บพนันดูน่าเชื่อถือ …นี่เป็นปัจจัยทำให้เล่นพนันออนไลน์ต่อเนื่อง แม้ว่าจะ “เจ๊งแล้ว..เจ๊งอีก…”

นอกจากนั้น ผลสำรวจ โครงการศึกษาพฤติกรรมการเล่นพนันออนไลน์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปี 2566 ยังพบ “ผลกระทบ” ที่เกิดจากการเล่นพนันออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ในรอบ 12 เดือน ที่ผ่านมาก่อนสำรวจ โดยคนรุ่นใหม่ที่ติดพนันออนไลน์มักเกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้… 1.ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 2.เสียเวลาทำงานหรือการเรียน 3.ขายทรัพย์สินมีค่าเพื่อเล่นพนัน-ใช้หนี้พนัน 4.มีปัญหาความเครียดหรือปัญหาสุขภาพจิต 6.ทะเลาะกับคนในครอบครัว เป็นต้น

นี่เป็น “พิษ” การ “ติดพนันออนไลน์”

ที่ก็สำรวจพบจาก “นักพนันรุ่นใหม่”

ในแหล่งข้อมูลเดิมยังเผยไว้ถึงข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างคนรุ่นใหม่ที่เล่นพนันออนไลน์ ที่ 14.8% ยอมรับว่า…ติดพนันออนไลน์ ขณะที่อีก 30.5% ตอบว่า…ไม่แน่ใจว่าตนเองติดพนันออนไลน์หรือไม่ ซึ่งในจำนวนนี้มีแนวโน้มเข้าข่ายกลายเป็น “นักพนัน” ที่จะเกิดปัญหาจากการ “ติดเล่นพนันติดหนี้พนัน” ซึ่งเป็นที่มาการจัดทำ “ข้อสังเกต” เกี่ยวกับ “พฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นปัญหา” แบ่งเป็น 5 ข้อ คือ 1.เริ่มเพิ่มวงเงินเล่นพนันเพื่อให้รู้สึกตื่นเต้น 2.มักกลับไปเล่นพนันเพื่อแก้มือ 3.เริ่มเล่นด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าที่มีจ่าย 4.รู้สึกผิดกับการเล่นพนัน แต่เลิกเล่นไม่ได้ 5.มีปัญหาชีวิตจากการเล่นพนัน

เหล่านี้เป็น “หลักสังเกต 5 ประการ”

“ติดพนัน” ที่จะ “ตามมาด้วยปัญหา!!”

ทั้งนี้ ชุดข้อมูลที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ยังได้เผยข้อมูล “หนี้พนันออนไลน์” จากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปี ในพื้นที่ 19 จังหวัด ซึ่งพบว่า… กลุ่ม 15-18 ปี มีมูลค่าหนี้พนันออนไลน์ถึง 86,389 ล้านบาท หรือเฉลี่ยแล้วมีหนี้พนันออนไลน์คนละ 4,488 บาท โดยพบหนี้สูงสุดอยู่ที่ 20,000 บาท ส่วน กลุ่ม 19-25 ปี มีมูลค่าหนี้พนันออนไลน์สูงถึง 686,415 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคนละ 11,567 บาท ซึ่งหนี้สูงสุดที่พบคือ 200,000 บาท…

และนี่ก็ชี้ชัด “ขึ้นชื่อว่าพนัน…มีแต่ร้าย”

รวมถึง “พนันออนไลน์…กับคนรุ่นใหม่”

“ปัญหาพนัน…ที่ในไทยโตได้ไม่หยุด??”.