เมื่อวันที่ 22 ต.ค. จากกรณีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่าย คปท. ทนายนกเขา นิติธร ล้ำเหลือ และนายนัสเซอร์ ยีหมะ รวมตัวทวงคืนความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย จะขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นดี โดยอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ เนื่องจากป่วยด้วย 4 โรครุมเร้า ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด พังผืดในปอด ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อม

โดยเบื้องต้นได้เจรจาเพื่อขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ โดยมี พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ ปิ่นทองดี รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พร้อมด้วย ตำรวจเวรอำนวยการ รพ.ตำรวจ พูดคุยกับตัวแทนกลุ่มเครือข่าย คปท.

ต่อมา นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา พร้อมนายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้เข้าพบ รศ.พล.ต.ต.กิตติ์ธนทัต เลอวงศ์รัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที

นายนิติธร กล่าวว่า ได้ไปพบพูดคุยกับ รศ.พล.ต.ต.กิตติ์ธนทัต เลอวงศ์รัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ได้ชี้แจงว่า รพ.ตำรวจ มีหน้าที่ดูแลคนไข้และรักษาเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องการประเมินว่าจะต้องยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องจะเป็นผู้ประเมิน โดยทางรองนายแพทย์ใหญ่บอกกับตนว่า ในความเห็นของแพทย์ที่ส่งไปนั้น โรงพยาบาลไม่ได้ลงความเห็นว่าให้อยู่รักษาต่อ เพราะอยู่ในการประเมินของกรมราชทัณฑ์ว่าจะอยู่ต่อหรือไม่อย่างไร

นายนิติธร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มักจะอ้างเรื่องจรรยาบรรณทางการแพทย์ในการปกปิดอาการของผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้เป็นช่องว่างทางกฎหมายของนักโทษรายอื่น จึงอาจจะมีการเสนอให้แก้กฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดกับนักโทษรายอื่น เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ส่วนบัตรประจำตัวผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเรื่องนี้ หากมีการทำบัตรผู้ต้องขังจะมีประวัติอาชญากรขึ้นในระบบของราชทัณฑ์ ทั้งนี้ ตนจะไปหารือกับทางกลุ่ม คปท.และไปติดตามเรื่องนี้ที่กรมราชทัณฑ์อีกครั้ง.