เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางบุญโฮม บุตโม หรือ แม่ของนายผดุง บุตรโม หรือ น้องโอโน่ แรงงานไทยที่ถูกยิงจากเหตุสงครามในอิสราเอล และรอดชีวิตกลับมาสู่ครอบครัวที่ จ.ขอนแก่น โดยได้รับการช่วยเหลือจาก นางวิภาวดี วรรณชัย หรือ แจ๋ม อายุ 40 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู โดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนองสองห้อง อาการปลอดภัยแล้ว

โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับพ่อแม่ของโอโน่ ซึ่งอยู่ที่นาของตัวเอง ไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ซึ่งพ่อและแม่ของโอโน่ได้ทำการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะวัวแม่ลูกอ่อน ชื่อนวล ซึ่งกำลังกินหญ้า โดยมีเจ้าอิสราเอล ซึ่งเพิ่งคลอดได้เพียงสามวัน กำลังนอนอยู่ในคอกวัวใกล้ใกล้กับแม่วัว หากใครเข้าไปใกล้ แม่วัวก็จะหวงและมาไล่ไป

นางบุญโฮม กล่าวว่า หากถามว่า คำว่าวีรสตรีเหมาะสมกับคุณแจ๋มไหม ตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าเหมาะสมที่สุด เพราะหลังจากที่มีเหตุการณ์สู้รบเกิดขึ้น ก็ได้คุณแจ๋มคอยเป็นผู้ประสานงานเป็นคนพาทางการช่วยเหลือ โดยเฉพาะลูกชายของตนเองที่ถูกยิง ซึ่งได้เจอกับคุณแจ๋มครั้งแรกในโรงพยาบาล พร้อมกับแรงงานชาวไทยอีกคน โดยแจ๋ม ช่วยดำเนินการดำเนินการต่างๆ ให้โอโน่ได้ออกจากโรงพยาบาล และได้กลับประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งสิ่งที่คุณแจ๋ม ทำนั้น มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่รู้จะใช้คำพูดไหนมาเปรียบเทียบ และการยกให้เป็นวีรสตรีนั้น ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งทางครอบครัวขอขอบคุณแจ๋ม เพราะถ้าไม่มีแจ๋มมาช่วยลูกชายของตนเอง ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าโอโน่จะได้กลับมาสู่ครอบครัวอีกตอนไหน

“ตอนนี้ลูกชายยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนองสองห้อง ซึ่งอาการโดยรวมหมอบอกว่า แผลแห้งดี อาการดีขึ้นตามลำดับ อีกประมาณสี่ถึงห้าวันก็คาดว่าจะกลับบ้านได้ และทันทีที่ลูกชายออกจากโรงพยาบาล ในครอบครัวก็จะทำพิธีสู่ขวัญ ก่อนจะคุยกันในครอบครัว หาฤกษ์บวชให้โอโน่ และในส่วนของฤกษ์แต่งงานนั้น ก็จะคุยกันอีกครั้ง หลังจากเสร็จพิธีสู่ขวัญและพิธีบวชโอโน่ นอกจากนี้ ตนเองยังได้คุยกับลูกชาย ว่าถ้าหายเจ็บ อาการดีขึ้น จะพากันไปหาคุณแจ๋มที่หนองบัวลำภู อยากจะไปพบไปคุยไปขอบคุณด้วยตัวเองด้วย”

นางบุญโฮม กล่าวต่ออีกว่า ในวันที่ไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น เป็นวันที่วัวเพศเมีย วัย 3 ปีเศษ ชื่อนวล ออกลูกมาพอดี ซึ่งเป็นวัวของโอโน่ จ่ายเงินซื้อมาในวันเกิดของโอโน่ 19 ส.ค. 2564 ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ได้ออกลูกขณะที่นั่งรถตู้ของเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับลูกชาย เมื่อรับลูกชายกลับถึงขอนแก่น ส่งถึงบ้านเรียบร้อยก็เดินทางกลับมาดูวัว พบว่าออกลูกเสร็จพอดี โดยสามีเป็นคนดูแล แต่หลังจากออกลูกมา ขาหน้าด้านซ้ายพบว่าผิดปกติ ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญตรงกับเหตุการณ์ที่ลูกชายโดนยิงขาพอดี แต่เป็นขาขวา ในวันที่ลูกชายเดินทางกลับมานั้น สามารถลุกขึ้นจากรถเข็นเดินไปขึ้นรถกลับขอนแก่นได้ เหมือนวัวที่คลอดมานั้น รับเอาความเจ็บและเหตุการณ์ร้ายๆ ไปแทนลูกชาย จึงได้ตั้งชื่อว่าเจ้าอิสราเอล

โดยเป็นวัวเพศผู้ ซึ่งหลังจากคลอดนั้น เจ้าอิสราเอลไม่ยอมกินนมแม่ จึงได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มาช่วยป้อนนม พอวันต่อมามานั่งคิด หากจะต้องมาคอยป้อนนมแบบนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก จึงตัดสินใจจะขาย อยู่ๆ เจ้าอิสราเอลก็ลุกขึ้นเดินไปกินนมแม่เอง ทำให้โล่งใจและตัดสินใจจะเลี้ยงเจ้าอิสราเอลเอาไว้ที่นาของครอบครัวต่อไป