(1)เลือกรองเท้าให้เหมาะกับประเภทวิ่ง

รองเท้าวิ่งมีการออกแบบมาให้ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้เพื่อให้สัมพนธ์กับการประเภทการของการวิ่ง ดังนั้นแล้วการเลือกรองเท้า ผู้ซื้อควรคำนึงถึงประเภทที่ตัวเองจะวิ่งเสียก่อน ประเภทของรองเท้าวิ่งหลัก ๆ จะมี 2 ประเภท

วิ่งถนน รองเท้าประเภทนี้เหมาะกับพื้นราบเรียบ มีลักษณะหนา น้ำหนักเบา รองรับแรงกระแทกได้ดี

วิ่งเทรล รองเท้าระเภทนี้เหมาะกับพื้นขรุขระ มีลักษณะที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเท้าจากเศษหิน เศษดิน และการลื่นไถล ไม่ว่าจะเป็นปุ่มที่พื้นใต้เท้า ขอบบน (Ankle Collar) ที่แข็งแรง

(2)เลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้า

ทำความรู้จักกับรูปเท้าของตัวเอง เท้าของแต่ละคนมีลักษณะไม่เหมือนกัน วิธีเช็คด้วยตัวเอง ‘ทำเท้าให้เปียก จากนั้นนำเท้าวางลงกระดาษ นำเท้าออกเพื่อดูรอยเท้าของตัวเอง’

ลักษณะของเท้า สามารถแบ่งได้คราว ๆ 3 แบบ คือ

Normal Arch (ปกติ) เป็นลักษณะโดยทั่วไป มีรอยเว้าเพียงข้างเดียว

High Arch (โค้งสูง) เป็นลักษณะที่ฝ่าเท้าสูงกว่าพื้น ส่งผลให้เวลาเคลื่อนที่แรงกระแทกจะเยอะกว่าแบบทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าและบริเวณเท้าด้านหน้า เท้าลักษณะนี้จะข้อเท้าพลิกได้ง่าย รวมถึงอาการปวดส้นเท้า และข้อเท้า

Flat Arch (เท้าแบน) เป็นลักษณะที่เท้าราบไปกับกับพื้น แทบจะไม่มีส่วนเว้า เท้าลักษณะนี้ควรจะเลือกรองเท้าที่มีส่วนโค้งที่รองรับกับฝาเท้าได้ดี เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ

(3) รูปแบบข้อเท้า

กลไกการหมุนของเท้า ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เพื่อลดแรงกระแทกจากการเคลื่อนไหว หากไม่หมุนเลนแรงกระแทกอาจถูกส่งตรงเข้าหาข้อต่อต่าง ๆ ตามร่างกายได้ 

Neutral (ปกติ) เป็นลักษณะที่หารองเท้าใส่ได้ง่าย การหมุนของเท้าจะอยู่ในระดับที่พอดี

Overpronate (บิดเข้า) ลักษณะเท้าล้ม จะมีมุมข้อเท้าล้มเข้าด้านใน ยิ่งล้มเยอะ ยิ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย เช่น เจ็บข้อเท้า หน้าแข้ง หรือเข่า  ซึ่งลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีเท้าแบบ High Arch

Suprination (บิดออก) จะมีแรงบิดเกิดขึ้นมากขณะเคลื่อนไหว ทำให้มีแรงบิดเกิดขึ้นที่ข้อต่อต่าง ๆ เสี่ยงต่อการบาดเจ็บข้อต่อ ซึ่งลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่มีเท้าแบบ  Flat Arch

(4)จับคู่รองเท้า

Neutral ซึ่งจะเป็นการวิ่งที่มีการกระแทกตรงบริเวณกลางฝ่าเท้า รองเท้าประเภทนี้เลยถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณข้อเท้า และรองรับแรงกระแทกได้ดี ทั้งส่วนเท้า และส่วนโค้งของฝ่าเท้าด้วย เหมาะกับคนฝ่าเท้าโค้งเว้า และฝ่าเท้าปกติ เป็นรองเท้าที่เน้นรองรับแรง

Stability มีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทกและมีความทนทานสุด ๆ อีกอย่างประเภทนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงในด้านโค้งของฝ่าเท้าตอนที่เคลื่อนไหว เพราะส่วนนี้จะเป็นส่วนที่รับแรงกระแทกมากที่สุด 

Cushioned รองเท้าประเภทนี้ฃมีพื้นไว้สำหรับรองรับแรงกระแทกบนพื้นถนน มีลักษณะที่มีพื้นสูงและมีแผ่นคาร์บอนข้างในโดยน้ำหนักเฉลี่ยของรองเท้าประเภทนี้จะอยู่ข้างละประมาณ 150 – 230 กรัม

Motion Control รองเท้าประเภทนี้เค้าออกแบบมาเพื่อรับแรงกระแทกของการวิ่ง และชะลอการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเท้า เป็นรองเท้าที่มีความทนทานสูงและมีน้ำหนักมากกว่าประเภทอื่น รวมถึงถูกออกแบบมาให้ยึดข้อเท้าอย่างแข็งแรง และช่วยปรับข้อเท้าที่จะบิดเข้าด้านในเวลาวิ่งให้ตรงมากขึ้น

////////////////////////////////////////////////////

เลือกรองเท้าได้แล้ว อย่าลืมไปร่วมกิจกรรมดี ๆ ซึ่ง เดลินิวส์ ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดงานวิ่งเพื่อการกุศลครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ในรายการ D Run For Life 2023 by Dailynews ในวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคมนี้ ที่สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา จังหวัดชลบุรี

นอกจากได้วิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้ว รายได้ส่วนหนึ่งยังจะนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ 2 แห่งในจังหวัดชลบุรีด้วย นั่นคือ รพ.บ่อทอง และ รพ. เกาะสีชัง เรียกว่าได้ทั้งสุขภาพที่ดี และได้ร่วมทำบุญไปในตัวเลยทีเดียว จึงบอกเลยว่า งานนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด

การแข่งขันมี 2 ระยะด้วยกัน คือ Fun Run 5 กิโลเมตร 550 บาท และมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร 650 บาท นอกจากนั้นยังมีบัตร VIP 2,000 บาท ที่จะได้รับของที่ระลึกพรีเมียมสุดพิเศษด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่เฟซบุ๊คD Run For Life 2023 by Dailynews หรือเว็บไซต์ www.dailynews.co.th  สมัครกันได้แล้ววันนี้