ในขณะที่พรีเมียร์ลีกได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่ก็น่าจะเป็นลีกที่มีผู้ตัดสิน “ห่วยแตก” ที่สุดเช่นกัน

ความมั่วซั่วถูกพิสูจน์อีกครั้ง แถมเป็นเกมบิ๊กแมตช์ระหว่างสเปอร์สกับลิเวอร์พูลที่หลุยส์ ดีอาซ ส่งบอลไปกองก้นตาข่าย แต่ดันไม่ได้ประตู ทั้งที่เป็นประตูที่ใสสะอาดที่สุดลูกหนึ่ง

เรื่องในขณะนั้นคือผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า แต่ภาพช้าดูไม่ล้ำ และที่สำคัญดันไม่มีการตีเส้นให้ดู ท่ามกลางความพิศวงงงงวยของแฟนบอล ว่ามันไม่น่าล้ำหน้าชัดๆ

จบเกมจึงได้ถึงบางอ้อ รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุมาจากการสื่อสารที่ผิดพลาดและความเลินเล่ออย่างน่าตบกบาลเป็นอย่างยิ่ง

ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อน ห้อง VAR โดยดาร์เรน อิงแลนด์ เช็กแล้วพบว่า ดีอาซ on side ก็คือดีอาซไม่ล้ำหน้า แต่ปรากฎว่า อิงแลนด์ เหมือนจะลืมไปกว่าไลน์แมนยกธงล้ำหน้า อิงแลนด์ บอกกับไซมอน ฮูเปอร์ว่า check completed หมายถึงตรวจสอบเรียบร้อย ในความเข้าใจของอิงแลนด์คือ “เช็คแล้วได้ประตู” แต่ฮูเปอร์ดันเข้าใจว่า “เช็กแล้ว ล้ำหน้า” เลยเป่าเล่นต่อ

คำถามต่อมาคือ อิงแลนด์ ควรจะรู้ตัวว่าผิดพลาดแล้วทำไมไม่รีบแย้ง แม้เชื่อกันว่ามันสายเกินไปที่จะดึงประตูกลับ แต่คำถามคือถ้ารู้ว่าผิดแล้ว มันมีคำว่าสายเกินไปสำหรับการแก้ตัวหรือ?

แล้วทำไมต้องรีบร้อนตัดสินให้ประตูขนาดนั้น ทั้งที่บางเกมอย่างประตูของโดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ยังเช็คกันนานถึง 3 นาทีกว่า

“ลีกหมื่นล้าน กรรมการสองสลึง” VAR ที่คิดว่ายอดเยี่ยม สุดท้ายก็ยังมีปัญหาเพราะผู้ใช้อย่างกรรมการนี่เอง

ย้อนไปต้นฤดูกาล องค์กรท่านเปา PGMOL ก็ต้องขอโทษที่ไม่ให้วูล์ฟสได้จุดโทษกับแมนฯ ยูไนเต็ด

ฤดูกาลก่อน ลี เมสัน ตีเส้นล้ำหน้าผิดพลาดทำให้อาร์เซนอลเสียประตูให้เบรนท์ฟอร์ด

เดือนเดียวกันเกมที่ไบรท์ตันเสมอพาเลซ ผู้ตัดสิน VAR ตีเส้นนักเตะตัวสุดท้ายของพาเลซผิดคน ไบรท์ตัน เลยไม่ได้ประตู

PGMOL ยังรับผิดตอนเดือนเมษายนว่าไบร์ตันควรได้จุดโทษเกมกับสเปอร์ แต่สจวร์ต แอตเวลล์ ทำแอคต์ไม่ไปดูจออีกครั้งแม้ VAR ทักท้วงแล้วก็ตาม

ถ้าย้อนไปอีกเดือนธันวาคม PGMOL สารภาพหน้าชื่นว่า VAR ผิดพลาดแล้ว 6 ครั้ง และพลาดอีก 6 ครั้งที่ไม่เข้าไปแทรกแซง

เรียกว่าผิดมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิดมันอยู่นั่นแหละ

น่าเห็นใจทีมพรีเมียร์ลีกและควรประณามองค์กรผู้ตัดสิน

เจอร์เกน คลอปป์ พูดถูกต้องทุกประการว่าต่อให้ขอโทษแล้วมันจะยังไง ผลก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต้มก็ไม่ได้คืน เท่ากับว่าสโมสรได้แต่รับชะตากรรม

แต่ละสโมสรลงทุนไปมากมาย มูลค่าทีมเป็นพันล้านหมื่นล้าน แต่ละแต้มหมายถึงอันดับ หมายถึงเงินมหาศาลที่อาจจะได้หรืออาจจะเสีย ที่สำคัญสุดคือความยุติธรรม

ทว่าทั้งหมดที่องค์กรผู้ตัดสินทำ คือแค่ขอโทษ โดนลงโทษแค่ไม่ทำหน้าที่เกมต่อไป ผ่านไปสักพักก็กลับมา ไม่เคยเห็นข่าวโดนปรับเงิน แถมยังออกกฎห้ามนักเตะ ห้ามโค้ชประท้วง ห้ามไม่พอใจ ห้ามแสดงอารมณ์ แต่ตัวเองเรียกร้องเงินสูงๆ เรียกร้องแม้แต่อาหารดีๆ

ถ้าจะมีอะไรที่เลวร้ายสุดในฟุตบอลอังกฤษคงไม่มีอะไรเกินผู้ตัดสินแล้ว

หนึ่งในทางออกคือต้องหันไปใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับฟุตบอลโลก 2022 ที่ไม่ต้องไปตีเส้นให้ยุ่งยาก แต่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงพิสูจน์การล้ำหน้าไปเลย

เส้นล้ำหน้าเสมือนจริงจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ระบุจุดร่างกายที่วัดว่าล้ำหน้าหรือไม่ แต่ VAR ยังต้องตรวจสอบการตัดสินนั้นอีกครั้งระบบนี้จึงเรียกว่ากึ่งอัตโนมัติ ซึ่งมันอาจทำให้ความผิดพลาดน้อยลง

น่าเสียใจจริงๆ ที่แต่ละสโมสรกำลังพัฒนาทีมขึ้นอย่างมาก แต่องค์กรผู้ตัดสินกลับไม่เคยพัฒนาขึ้น และดูเหมือนยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ อีกต่างหาก

เฮียเอง