อาร์เซนอล ได้แค่เสมอคู่ปรับตลอดกาล ทอตแนม ฮอทสเปอร์ 2-2 ทั้งที่เล่นในบ้าน และก่อนเกมก็ถูกมองว่าเป็นต่อพอสมควร (หากพิจารณาจากราคาต่อรองจากบ่อนอังกฤษ)

แฟนบอล “ปืนใหญ่” จำนวนหนึ่งไม่พอใจที่ทีมรักไม่สามารถเผด็จศึกคู่อริรายนี้ได้สำเร็จ แต่จะว่าไปแล้ว “เดอะ กันเนอร์ส” สมควรผิดหวังจริงๆ หรือไม่?

ก่อนอื่นแม้ไม่อยากชม แต่จำเป็นต้องชม อังเก ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์ ที่พาทีมออกสตาร์ตได้ดี แม้เพิ่งเป็นซีซั่นแรกของเขาในพรีเมียร์ลีก แล้วไหนจะไม่มี แฮร์รี เคน ที่ย้ายออกไป โดยรวมผมมองว่าเขาวางแผนมาได้ดีส่วนหนึ่ง และนักเตะเองก็อยู่ในช่วงที่มั่นใจ

ขณะที่ อาร์เซนอล กำลังเผชิญปัญหาเดิมมาตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาล นั่นคือ “อาการบาดเจ็บ”

จูร์เรียน ทิมเบอร์ ทุ่มทุนซื้อมาใหม่ ไม่ทันไรเจ็บเอ็นไขว้เข่า พักยาวแบบยังไม่มีกำหนดกลับ

โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางชาวกานา เจ็บตามไปอีกบริเวณสะโพก น่าจะหายดีช่วงปลายเดือนตุลาคม

กาเบรียล มาร์ติเนลลี เจ็บต้นขาสัปดาห์ที่แล้ว แต่คาดว่าไม่หนักหนา

เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ฟอร์มกำลังดีก็ดันมาเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหลังระหว่างซ้อม

อาจไม่ใช่ข้อแก้ตัวเสียทีเดียว แต่แน่นอนว่าการขาดนักเตะไปมากมายขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่การเตรียมทีมในอุดมคติของอาร์เตตา

เท่านั้นไม่พอในเกม เดแคลน ไรซ์ ก็บาดเจ็บหลังเล่นต่อไม่ไหวโดนเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่ง

สุดท้าย บูกาโย ซากา ก็เจ็บโขยกเขยกออกจากสนามในช่วงทดเจ็บไปอีกคน

เรื่องนี้ทำเอานึกถึงช่วงก่อนเปิดฤดูกาลที่หลายคนบอกว่าอาร์เซนอลมีนักเตะมากพอเหลือกินเหลือใช้ แล้วเป็นไงล่ะ? ผ่านไปไม่กี่นัด ตัวจะไม่พออยู่แล้ว

ยิ่ง 2 รายหลังยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากหรือไม่

ดังนั้นทีมไม่สมบูรณ์เป็นอีกประเด็นที่น่าขบคิดว่าถ้าฟูลทีมกว่านี้ อาร์เซนอลจะชนะหรือไม่? ถ้ากองหน้าฝั่งซ้ายเป็นทรอสซาร์ หรือ มาร์ติเนลลี โดยมี กาเบรียล เชซุส เป็นหน้าเป้า ไม่ใช่ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ หรือแดนกลางที่มีปาร์เตย์มาทำหน้าที่แทนไรซ์ อาร์เซนอลอาจจะเฮก็ได้?

รูปเกมผมว่าอาร์เซนอลทำได้ดี หลังจากช่วงต้นสเปอร์แสดงให้เห็นว่ามาสู้ และสามารถทำเกมแดนกลางได้ดีพอสมควร แต่มาได้ซากายิงแฉลบเข้าประตูตัวเอง และน่าจะนำห่างสองประตูหากว่าเชซุสไม่ยิงเหิรข้ามคานไปเสียก่อนหลังแย่งบอลมาจากแมดดิสันบริเวณกรอบเขตโทษ

ซึ่งหากนำสองสกอร์ อะไรๆ มันอาจง่ายขึ้น แต่พอนำแค่ลูกเดียวก็อย่างที่เห็น

ดาบิด รายา โชว์เซฟลูกยิงของจอห์นสันแบบเหลือเชื่อก็จริง แต่เขาเองก็มีส่วนกับประตูแรกที่เสียเพราะปัดลูกเข้ามาในสนาม เพื่อนร่วมทีมเองก็เคลียร์ไม่ขาด แล้วดันไปพลาดให้ แมดดิสัน กับ ซอน เฮือง มิน

ลูกสองก็เช่นกัน จอร์จินโญ ดันไปเสียบอลง่ายหลังเพิ่งลงมาแทนไรซ์ แต่เรื่องนี้จะโยนบาปให้กองกลางอิตาเลียนคนเดียวไม่ได้ เพราะฤดูกาลนี้แกลงสนามน้อยมาก สนิมแทบเกาะขาอยู่แล้ว เครื่องยังไม่ทันร้อนก็พลาด แล้วพลาดกับใครไม่พลาด

พอเสมอ 2-2 ช่วงเวลาที่เหลือก็บีบหัวใจสุดฤทธิ์ ยิ่งท้ายเกมยิ่งหวั่นวิตก ไม่ว่าใครเสียประตูก็มีโอกาสแพ้สูง

โชคดีแล้วที่ไม่แพ้คาบ้าน ผลเสมอเองก็ไม่ได้เลวร้าย เพราะต้องย้ำว่าทั้งสองฝ่ายอยู่ในช่วงที่ดีเหมือนกัน อย่าเพิ่งบอกว่าอาร์เซนอลห่วย โค้ชห่วย เปลี่ยนตัวห่วย เพราะคู่แข่งก็มีตีนเหมือนกัน

อย่าลืมด้วยว่า สเปอร์ ไม่มีเตะถ้วยยุโรป จึงได้พักมาเต็มๆ กว่า

ดังนั้นหวังว่า อาร์เตตา จะได้บทเรียนหลายข้อกลับไปทบทวน

อาร์เซนอล เพิ่งกลับมาเล่นแชมเปียนส์ลีกในรอบ 6 ปีครึ่ง เป็นความสำเร็จก้าวหนึ่ง แต่ก็แลกกับความอ่อนล้าของนักเตะที่มากขึ้น

อาร์เตตา ต้องระลึกว่าเขาไม่สามารถส่ง 11 คนแรกเป็นชุดเดิมตลอดเหมือนที่ผ่านมาได้อีก เพราะโปรแกรมที่มีจะกลายเป็นเตะสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซากา ก็ให้น้องมันพักบ้าง เจ็บยาวขึ้นมาจะเรื่องใหญ่

การหมุนเวียนผู้เล่นเป็นสิ่งสำคัญมาก ตัวอย่าง กาเบรียล มากัลเญส ที่ส่อแววให้เห็นว่าอ่อนล้ามากช่วงท้ายเกมมาสองนัดแล้วตั้งแต่กลับจากทีมชาติ

ส่วนตำแหน่งกองหน้าก็สมควรคิดถึงการซื้อคนใหม่เข้ามาแทนเอ็นเคเทียห์ไว้บ้าง ที่ผ่านมาก็ให้โอกาสมากพอดูแล้ว ไม่ว่าแกจะชื่นชมขนาดไหน แต่ขนาดแฟนทั่วโลกยังเห็นว่าควรมีกองหน้าที่ดีกว่านี้ แล้วอาร์เตตาจะไม่รู้เลยหรือ? ผมว่าแกรู้ แต่บางทีอาจยังไม่เจอคนที่ใช่ หรือมีปัญหาอื่น เช่น ใช้เงินไปมากพอแล้ว

ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็ยังต้องกดดันต่อไป กับช่วงขาดความมั่นใจ เสียดายที่ลูกยิงช่วงท้ายเกมของแกดันซัดข้ามคานไม่มีลุ้น เพราะถ้ายิงเข้าไปขึ้นมา บางทีค่าตัว 65 ล้านปอนด์ก็อาจคุ้มค่าไปเรียบร้อย

สรุปรวมๆ แล้วว่าผมคิดว่าเสมอไม่ได้เลวร้าย นักเตะเพิ่งล้าจากยุโรป ทรอสซาร์ก็เจ็บ คู่ต่อสู้ก็มาดี ถ้าไม่ใช่สเปอร์แต่เป็นทีมเล็กกว่านี้ แต่ไม่ชนะก็ว่าไปอย่าง

เจอทีมใกล้เคียงกันไม่ชนะไม่เป็นไร แต่อย่าไปพลาดกับทีมเล็กจำพวก บอร์นมัธ ฟอเรส เบิร์นลีย์ อะไรเทือกนี้แล้วกัน

แต่ที่สำคัญอาร์เตตาและทีมงานจะต้องเห็นและแก้ปัญหา เพราะเส้นทางฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกลมาก ยังอาจมีสารพัดสิ่งที่เกิดขึ้นกว่าจะไปถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า

เพราะในท้ายที่สุด ผู้ชนะจะไม่ใช่ทีมที่เล่นดีที่สุดแค่ไม่กี่เกม แต่ผู้ชนะคือผู้ที่มีความสม่ำเสมอที่สุดทั้งฤดูกาล.

เฮียเอง