เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565  แถลงว่าที่ผ่านมาคณะกมธ.พิจารณางบประมาณเสร็จสิ้นแล้ว 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนของกระทรวงทรัพฯ กมธ.บางท่านห่วงใยเรื่องการควบคุมปริมาณลิง ที่ปัจจุบันมีลิงประมาณ 5 หมื่นตัว ที่ทำให้เกิดความรุนแรงในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ลพบุรี นครสวรรค์ และราชบุรี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้ของบเพื่อทำหมันลิง 1 หมื่นตัว แต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 65 เพียง 1,000 ตัว ซึ่งไม่สมดุลกับสถานการณ์ที่จะต้องมีการป้องกันโรคติดเชื้อจากลิงสู่คน

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ดังนั้น กรมอุทยานฯจะหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ขณะที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เสนอความเห็นเพื่อให้พัฒนาสวนสัตว์ให้มีมาตรฐานดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย แต่ปัจจุบันมีผู้เช้าชมน้อยลง จึงต้องพัฒนาสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากขึ้น

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ส่วนในวันนี้กมธ.ได้เริ่มพิจารณาการจัดสรรงบฯในภาพรวมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีหน่วยงานขอรับงบฯ 11 หน่วยงานที่ต้องชี้แจง ซึ่งมีการขอเม็ดเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะกรมชลประทานที่ของบประมาณ 77,268 ล้านบาท ในการบูรณาการเรื่องน้ำ จากนั้นจะพิจารณากรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อไป

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกมธ.วิสามัญฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าการพิจารณางบฯปี 65 มีความล่าช้ามาก เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้คณะกมธ.ฯต้องเลื่อนประชุมไป 1 สัปดาห์ ส่งผลกระทบต่อแผนงานที่คาดว่าจะต้องเลื่อนการพิจารณาของส.ส.ที่แปรญัตติจากเดิมที่กำหนดวันที่ 21 ก.ค. เป็นวันที่ 29 ก.ค. จึงจะสามารถนัดส.ส.ที่เสนอคำแปรญัตติ และคณะอนุกมธ.ทั้ง 9 คณะ ให้ได้รายงานการจัดงบประมาณว่าเป็นอย่างไร

“จึงทำให้มีผลกระทบต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งจะถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 18 – 20 ส.ค.64 เพราะตามกำหนดการเดิมสภามีเวลา 105 วัน ในการพิจารณาซึ่งจะครบวันที่ 29 ส.ค.นี้ ดังนั้น คณะกมธ.ฯ จะรีบทำให้เสร็จก่อนครบกำหนด เพราะหากพิจารณาไม่เสร็จจะมีผลกระทบต่อการปรับลดงบประมาณที่ทำไว้ และถูกบังคับไว้ด้วยรัฐธรรมนูญให้ใช้ร่างเดิม ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายการได้” นายเรืองไกร กล่าว.

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จทัน 105 วันใช่หรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ขอให้อนุกมธ.ทั้ง 9 คณะ รีบสรุปรายงานเข้ามา และกมธ.ชุดใหญ่เร่งพิจารณาโดยจะปรับเวลาการประชุมจากเลิก 21.00 เป็น 22.00 น. รวมถึงอาจจะต้องทำงานเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือกมธ.ให้ใช้เวลาในการสอบถามผู้ชี้แจงตามกรอบเวลา 7 นาที ถ้าอยู่ในกรอบการพิจารณาแบบนี้ก็น่าจะไปได้.