จากกรณี ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี พบศพ น.ส.ซิ้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ถูกฆ่าหมกป่าละเมาะ บริเวณปากซอยร่วมสุข 7/24 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยญาติเล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นดาวน์ซินโดรม และป่วยมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ทั้งนี้ตำรวจได้เบาะแส ผู้ก่อเหตุเป็นชายชุดดำ ที่ลอบไปพาผู้ตาย ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนมาพบกลายเป็นศพ นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ก.ย. สภ.ปากคลองรังสิต พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมจับจับกุม นายมารุธ นนภิภักดิ์ หรือรุธ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.110/2564 ลงวันที่ 15 กันยายน 2564 พร้อมด้วยของกลาง เสื้อคอโปโล สีน้ำเงิน 1 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น-ข่มขืนกระทำชำเราจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย-พาไปเพื่อการอนาจาร โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาเอง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุได้ดื่มสุรา และเสพกัญชาเข้าไปจนเกิดความมึนเมา กระทั่งไปเจอผู้ตายและหลอกลวงให้ผู้ตายไปนวดตัวในราคา 200บาท พอเข้าไปภายในป่าบริเวณจุดที่เกิดเหตุได้ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นได้มีการผลักผู้ตาย ไปชนต้นไม้จนคอหักจนร่างตกลงไปภายในน้ำ จนแน่นิ่งแน่ใจว่าเสียชีวิตจึงนำศพมาไว้ริมตลิ่ง จากนั้นก็หลบหนีไปที่บ้านพักจากนั้นชุดสืบสวน จึงเข้าไปสอบถามแม่ของผู้ต้องหาก็ยืนยันว่า บุตรชายได้ก่อเหตุจริงกระทั่งไปขอศาลจังหวัดปทุมธานีออกหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมตัว
เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ควบคุมตัวนายมารุธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณป่าหญ้าปากซอยร่วมสุข 7/24 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี มีการกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยมีประชาชนมาสังเกตการณ์กว่า 100 คน เริ่มจากจุดที่พาผู้ตายเข้าไปภายในป่าก่อนที่จะกระทำชำเรา แล้วผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจนมีร่องรอยตามร่างกาย จึงจับร่างผู้ตายกระแทกกับต้นไม้จนร่างตกน้ำ ก่อนที่นำร่างผู้ตายมาไว้ริมตลิ่งโดยมีผู้มีน้ำลายฟูมปาก
ด่วน! จับได้แล้วทรชนขืนใจฆ่าสาวดาวน์ซินโดรม ญาติเหยื่อลั่นไม่อโหสิกรรมให้…
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ทราบว่าขณะนั้นผู้ตายตายหรือไม่ จากนั้นตนเองก็กลับบ้านไป ซึ่งขณะทำแผนแล้วเสร็จกำลังจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นจากจุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้เกิดโรคลมชักกำเริบเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันอุ้มตัวผู้ต้องหา ขึ้นรถตู้ตำรวจเพื่อปฐมพยาบาลแล้วนำกลับไปทำการสอบสวนต่อที่ สภ.ปากคลองรังสิต หากการสอบสวนเข้าข่ายฐานความผิดใดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป