การแข่งขันฟุตบอลชาย เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ในกลุ่ม E หลังผ่านนัดแรก “ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ได้ประตูช่วงทดเวลา เสมอ บาห์เรน 1-1 “แบงค์” ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ยิงไกลไฟลุกสุดสวย ส่วน “โสมขาว” เกาหลีใต้ กะซวกโหด คูเวต ไส้ไหล 9-0

คิวเตะนัดต่อไปของทีมไทย นัด 2 พบ เกาหลีใต้ ที่จินหัว สเตเดี้ยม วันที่ 21 กันยายน เวลา 18.30 น. (ช่อง 5) และนัดสุดท้าย พบ คูเวต ที่สนามมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงตะวันออก วันที่ 24 ก.ย. 66 เวลา 18.30 น. (พีพีทีวี) โดยรอบแรกคัดอันดับ 1-2 เข้ารอบทันที และอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 จาก 5 กลุ่ม

ความเคลื่อนไหวทีมไทย วันที่ 20 ก.ย. 66 “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร กุนซือใหญ่ นำทีมซ้อมเบาๆ ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ก่อนเจอของแข็ง ชี้ชะตาเข้ารอบ

“โค้ชหระ” กล่าวว่า ในเกมแรกยังต้องปรับปรุงแก้ไขความสัมพันธ์ในทีม ที่ยังติดขัดอยู่บ้าง ได้ชมเกม เกาหลีใต้ พบ คูเวต มองว่าเป็นเกมที่ห่างในทุกด้านของฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ยิ่งโดนยิง คูเวตก็ยิ่งท้อ

ส่วนเป้าหมาย ใน 2 นัดท้ายรอบแรก “โค้ชหระ” ยอมรับว่า เจอ เกาหลีใต้ ก็หนักแน่ คู่แข่งมาตรฐานสูง ต้องพยายามหาทางรับมือให้ได้ ส่วน คูเวต ต้องทำการบ้านดีๆ น่าจะพอมีโอกาสเอาชนะได้ อยู่ที่เกมวันนั้นด้วย แต่ไทยก็จะได้ผู้เล่นสมบูรณ์ขึ้น โดยเฉพาะ 5 คนที่มาเสริม “มิคกี้” ยศกร บูรพา, พงศกร ตรีศาสตร์, บุคฆอรี เหล็มดี, วาริส ชูทอง และศิริวัฒน์ อิงแก้ว ก็จะพร้อมลงเป็น 11 ตัวจริง เช่นเดียวกับ “แบงค์” ปุรเชษฐ์ ที่ยิงสุดสวยในเกมแรก.

อะไรก็เกิดได้“ปุรเชษฐ์”ท้าชนโสม

ขณะที่ ปุรเชษฐ์ กล่าวว่า ดีใจ ที่ทำประตูให้ทีมเก็บแต้มแรกในเอเชียนเกมส์ได้ รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน ที่มีโอกาสหลายครั้งแต่ไม่สามาถทำได้ แต่มองว่าการได้ผลเสมอย่อมดีกว่าการแพ้และไม่มีแต้มเลย เกมต่อไป กับ เกาหลีใต้ เป็นงานที่ยากพอสมควร แต่ไม่ได้คิดว่าจะลงไปยอมแพ้ ทุกคนจะพยายามสู้เต็มที่ แม้เกาหลีใต้จะมีคุณภาพดี มีร่างกายที่สูงใหญ่และแข็งแกร่ง แต่เชื่อว่าหากช่วยกันสู้ พยายามช่วยกันทุกจังหวะ นำข้อผิดพลาดจากเกมแรกมาแก้ไข เชื่อว่าในกีฬาฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้