นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาจำหน่ายบริเวณสถานีกลางบางซื่อว่า ที่ผ่านมา รฟท. ได้ขอความร่วมมืองดนำสินค้าวางจำหน่าย เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการ และสอดคล้องกับมาตรการดูแลด้านสาธารณสุข แต่ยังมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนไม่ปฏิบัติตาม รฟท. จึงได้ประสานงานให้กองบังคับการตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตั้งจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเข้าสถานีกลางบางซื่อ (ข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง) และประตูด้านหลังสถานี นอกจากนี้ยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงตรวจดูแลความเรียบร้อยตลอดเวลา
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีวินมอเตอร์ไซค์ที่โบกรถยนต์ประชาชน พร้อมทั้งแอบอ้างเรียกเก็บค่าจอดรถและค่าโดยสารแพงเกินราคานั้น รฟท. ได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ รฟท. จึงได้ประสานงานร่วมกับกองบังคับการตำรวจรถไฟ และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้กวดขัน และจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะทุกประเภทให้ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติของ ขบ. และกฎระเบียบข้อกำหนดการในการใช้พื้นที่ของ รฟท. บริเวณสถานีกลางบางซื่ออย่างเคร่งครัด โดยห้ามจัดตั้งวินมอเตอร์ไซค์ลอย หรือใช้รถจักรยานยนต์ป้ายดำมาดักให้บริการรับส่งประชาชนไปที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ
นายเอกรัช กล่าวอีกว่า รฟท. ได้จัดที่จอดรถยนต์ชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ รองรับได้ 1,700 คัน โดยไม่คิดค่าบริการ และไม่มีนโยบายให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ สำหรับตั้งจุดค้าขายตามถนนทุกกรณี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีไว้สำหรับอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรแก่ประชาชน รวมถึงได้เพิ่มความเข้มงวดห้ามมิให้บุคคลใดฉวยโอกาสเข้ามาใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของสถานีทุกกรณี ซึ่ง รฟท. ยืนยันว่าพร้อมดูแลบริหารจัดการพื้นที่สถานีกลางบางซื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมและประเทศชาติ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่มีความทันสมัย มีความสะดวก มีระเบียบ และสวยงาม เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่และดีที่สุดในอาเซียนต่อไป.