“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก จะพบ อิรัก อันดับ 70 ของโลก ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในวันที่ 10 ก.ย. 66 เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และ AIS PLAY
ล่าสุด ได้มีการแถลงข่าวก่อนการแข่งขัน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ห้องแถลงข่าว สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดย มาโน โพลกิง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า ทีมไทยไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่มีเวลาซ้อมไม่มากนัก สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการวิเคราะห์เกมของตัวเองและคู่แข่ง เพื่อหาแผนการเล่นที่ดีที่สุด อยากให้นัดชิงชนะเลิศมีแฟนบอลเข้ามากันชมเต็มความจุของสนาม เพราะจะส่งผลดีต่อทั้งไทยและอิรักแน่นอน ทีมไทยจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้
เมื่อถามว่า ในรอบชิงชนะเลิศ “พีช” จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ โกลดาวรุ่งที่เพิ่งติดทีมชาติไทยครั้งแรก จะได้ลงสนามหรือไม่ มาโน ตอบว่า “บอย” ฉัตรชัย บุตรพรม ยังทำหน้าที่ได้ดี และจะลงสนามเป็นตัวจริงตามเดิม อาจจะโชคร้ายสำหรับ จิรวัฒน์ ที่ถึงจะฟอร์มดีในลีกมา แต่คงยังไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงแผนงานหลังจบฟุตบอลคิงส์คัพ มาโน กล่าวแค่สั้นๆ ว่า “ผมขอมีสมาธิกับเกมวันพรุ่งนี้ก็พอ”
ด้าน “เช็ค” สุภโชค สารชาติ นักเตะจากคอนซาโดเล ซัปโปโร กล่าวว่า มาโน วางแผนให้เล่นตำแหน่งเดียวกับตอนเล่นที่คอนซาโดเล ซัปโปโร ทำให้คุ้นชินกับแผนการเล่นแบบนี้และเข้าใจระบบ พยายามปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีม การเจอกับอิรักไม่ใช่งานง่าย จะพยายามศึกษาจุดอ่อน-จุดแข็ง ให้สู้ได้อย่างเต็มที่ หวังว่าจะสามารถเอาชนะ เป้าหมายของทีมคือเป็นแชมป์ และหวังว่าจะทำให้ได้
ฝั่งอิรัก เฆซุส การ์เซีย กุนซือใหญ่ กล่าวว่า สถานการณ์ของไทยกับอิรักเหมือนกัน พักมาเท่ากัน อิรักก็ได้แค่ซ้อมเบาๆ เช่นกัน จะเลือกคนที่พร้อมที่สุดลงสนาม เรื่องของสภาพอากาศหรือสภาพสนามมันไม่ใช่ข้ออ้างใดๆ เพราะทุกทีมก็ต้องเจอเหมือนๆ กัน จะมีสมาธิแต่เกมของตัวเอง เพื่อต่อสู้กับไทยให้ดีที่สุด การวาง 11 ตัวจริง อาจมีปรับบ้าง รอเช็กสภาพร่างกาย
ด้าน อายเมน ฮุสเซน นักเตะตัวรุกอิรัก กล่าวว่า เจอไทยยากแน่นอน ทีมมีเวลาฝึกซ้อมกันไม่นาน และสภาพอากาศก็ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่จะทุ่มเทเต็มที่เพื่อเอาชนะให้ได้