สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ว่า ผู้แทนพิเศษด้านกิจการนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐ หารือร่วมกันที่กรุงโตเกียว เมื่อวันอังคาร แม้เป็นการประชุมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังกองทัพประชาชนเกาหลี ( เคพีเอ ) เปิดเผยเรื่องการทดสอบ "อาวุธนำวิถีทางยุทธศาสตร์รุ่นใหม่" เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และภาพที่ปรากฏออกมา บ่งชี้ว่าคือ "ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล" 
จากซ้ายไปขวา : นายคิม ซอง ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลสหรัฐ นายทาเคฮิโระ ฟุนาโคชิ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และนายโน คยู-ด๊อก ผู้แทนพิเศษด้านกิจการคาบสมุทรเกาหลี กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้
นายคิม ซอง ทูตพิเศษของสหรัฐ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่ายิ่งสะท้อน "ความจำเป็น" ของความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ และในส่วนของรัฐบาลวอชิงตันยังมีความพร้อมและเปิดกว้าง ที่จะพบหารือกับรัฐบาลเปียงยางผ่านการดำเนินกระบวนการตามหลักการทูต แม้เกาหลีเหนือเพิ่งผ่านพ้นการทดสอบอาวุธครั้งใหม่ก็ตาม 
อย่างไรก็ตาม นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เคยประกาศว่า "ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป" ในการที่รัฐบาลเปียงยางจะยึดมั่นกับแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการระงับทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) และระเบิดนิวเคลียร์ ในขณะที่สหรัฐยังคงปฏิบัติตัวไม่ต่างจาก "หัวหน้าแก๊งอันธพาล" ด้วยการเดินหน้าซ้อมรบกับเกาหลีใต้ พัฒนาอาวุธนำวิถี และไม่ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ และประชาคมโลกจะได้ประจักษ์กับ "อาวุธทางยุทธศาสตร์ชนิดใหม่" ของเกาหลีเหนือ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักคือปกป้องอธิปไตยของประเทศในระยะยาว ให้รอดพ้นจากการคุกคามโดยสหรัฐ
อนึ่ง แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบครั้งนี้ สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้หรือไม่ แต่นับเป็นครั้งแรก ที่รัฐบาลเปียงยางทดสอบอาวุธนำวิถีพิสัยไกล นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เมื่อปลายเดือนม.ค.ปีนี้.

เครดิตภาพ : AP