จากความชอบ ความฝัน และทำมันให้สำเร็จ ที่แม้ต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นเวลานับสิบปี กับ 2 หนุ่ม พีท-สรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี และ ตุลย์-วีรภัทร ชินะนาวิน ผู้บริหาร RiFF Studio ได้โลดแล่นอยู่ในวงการโปรดักชันและแอนิเมะ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้กระบวนการ การทำงานอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ จนได้ฤกษ์สร้างฝันและความสนใจวัยเด็ก ให้มีตัวตน ด้วยการเนรมิตตัวละครในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ให้ออกมาโลดแล่นบนจอเงิน เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันไซไฟเรื่องแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย อย่าง “นักรบมนตรา” ด้วยงบลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท
จากวรรณคดีไทยสุดเลื่องชื่อ สู่ “นักรบมนตรา” : ตำนานแปดดวงจันทร์ (Mantra Warrior : The legend of the eight moons
ด้วยความชอบในวรรณคดีไทย เรื่อง รามเกียรติ์ บวกกับความฝันตั้งแต่วัยเด็ก ที่อยากเห็น ตัวละครที่รักได้มีตัวตน จึงมาสอดผสานกับความชื่นชอบในนิยายแนวไซไฟและอวกาศ รวมถึงจินตนาการส่วนตัว จนกลายมาเป็นภาพยนตร์ “นักรบมนตรา” ที่หยิบเอาเรื่องราวบางส่วนของวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์ มาตีความใหม่ทั้งหมดในสไตล์ของ RiFF Studio พร้อมการออกแบบตัวละครให้มีคาแรกเตอร์ ที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกจนมีเอกลักษณ์พิเศษ รวมถึงการขยายเรื่องราวสื่อสารเป็นภาพที่มีความน่าสนใจ มีความทันสมัย สามารถเข้าใจได้ง่าย จึงทำให้แม้แต่คนที่ไม่เคยติดตามเรื่องราวของรามเกียรติ์ หรือไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็สามารถดูได้อย่างเข้าใจ หรือคนที่เคยติดตามและชื่นชอบอยู่แล้ว ก็รับรองว่า ไม่ผิดหวังแน่นอน
นั่นเพราะ “นักรบมนตรา” ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพียงเฉพาะให้คนไทยได้ดูเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ จึงออกแบบเรื่องราวและตัวละครให้มีความทันสมัย เข้าใจง่าย แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นไทยอยู่ ที่สำคัญยังใส่ความเป็นไทยร่วมสมัยเข้าไปเพื่อให้คนดูได้อรรถรสเพิ่มมากขึ้น อาทิ เมนูข้าวกะเพราหมูกรอบไข่ดาว ส้มตำ ไก่ย่าง ยาดอง รถสองแถว เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่ส่งไปยังผู้ชมทั่วโลก ให้พวกเขาได้รู้จักวัฒนธรรม ความก้าวหน้าและความทันสมัยของคนไทย ที่สำคัญ เพื่อเป็นการแสดงฝีมือคนไทยในการทำแอนิเมชัน การใช้เทคนิคต่างๆ ในภาพยนตร์ ตอกย้ำฝีมือ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์ RiFF ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันเรื่องแรกของบริษัท และได้ชื่อว่า เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันสัญชาติไทย แนวแอ็กชัน-ไซไฟ เรื่องแรกของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย ที่ผลิตโดย Studio ฝีมือของคนไทย 100% ด้วยทีมงานคนไทยกว่า 300 ชีวิต
นักรบมนตรา “ฮีโร่” ในแบบฉบับคนไทย
ในส่วนของเนื้อหา “นักรบมนตรา” ก็พร้อมให้ได้ลุ้นกันมันส์จนหยดสุดท้าย ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของมหาศึกสงครามระหว่างกองทัพแห่งองค์รามและจักรพรรดิทศกัณฐ์ ที่ได้ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานไม่รู้จักจบสิ้นในจักรวาลอีกห้วงมิติหนึ่ง แต่แล้วในระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอยู่นั้น องค์รามได้เกิดพลาดท่าเสียทีถูกจักรพรรดิทศกัณฐ์ ลักพาตัวพระแม่สีดาขึ้นยานหนีไป เพราะจักรพรรดิทศกัณฐ์ เชื่อตามตำนานที่ได้กล่าวไว้ว่าในทุกๆ 500 ปี พลังแห่งเทพที่สามารถสร้างหรือทำลายทุกสรรพสิ่งในพริบตา จะตื่นขึ้นในตัวของพระแม่สีดา
ทำให้องค์รามต้องส่ง “วายุ” “เวฬา” และ “บุษบา” เพื่อออกติดตามนำตัวพระแม่สีดากลับคืนมา แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยพละกำลังอันมหาศาลจากราชาพาลี แม่ทัพผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในศึกสงครามใด นั่นทำให้เหลือเพียงหนทางเดียวที่จะชิงตัวพระแม่สีดากลับคืนมา และเอาชนะศึกสงครามระดับจักรวาล ในครั้งนี้ได้ คือต้องรอคอยนักรบในตำนานที่ถูกเรียกขานว่า นักรบมนตรา ที่จะถือกำเนิดในห้วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์ทั้งแปดแห่งดาววานาราเรียงตัวกันเท่านั้น!
แต่ใครกัน…ที่จะเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นนักรบมนตราคนต่อไป? แล้วถ้าพลังลึกลับที่หลับใหลของพระแม่สีดาถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ทั้งจักรวาลจะมีชะตากรรมอย่างไร? มาเข้าร่วมต่อสู้ในศึกมหากาพย์ แห่งสงครามที่มีจักรวาลเป็นเดิมพัน ในภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์สัญชาติไทย “นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” พร้อมประกาศศักดาทั้งจักรวาลก่อนใคร ในงานกาล่าพรีเมียร์ ที่คราวนี้ RiFF Studio จัดใหญ่จัดเต็มด้วยการเชิญ เบลล่า-ราณี ผู้พากย์เสียงพระแม่สีดา, โอม-ค็อกเทล และ เก่ง-ธชย ผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังงานผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ในเรื่องนี้ มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ฟินใกล้ชิดกันติดขอบเวที พร้อมทั้งกิจกรรมและของรางวัลมากมายมาให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกในงาน ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์..