เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.ต.ท.ณัฐพล พงษานุวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนมีผู้เสียชีวิต ภายในหมู่บ้านพรมทินใต้ บ้านเลขที่ 72 หมู่ 11 ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จึงแจ้งรถน้ำดับเพลิง อบต.ห้วยโป่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมนายสิทธา ภู่เอี่ยม นอภ.โคกสำโรง พ.ต.อ.นพพลพัชร สิทธิสมบูรณ์ ผกก.สภ.โคกสำโรง แพทย์ รพ.โคกสำโรง และมูลนิธิโคกสำโรงสงเคราะห์

จุดเกิดเหตุอยู่ในซอยกลางชุมชน เป็นบ้านไม้ยกพื้น พบเพลิงลุกไหม้บ้านทั้งหลังโดยมี น.ส.อังคณา อนุภาพ อายุ 21 ปี ยืนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยยายและลูกชายวัย 3 ขวบ ที่ยังติดอยู่ในบ้าน ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้วอดทั้งหลังไม่สามารถช่วยเหลือคนในบ้านออกมาได้ทัน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับไฟประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ แต่บ้านก็ถูกไหม้ทั้งหลัง

จากการตรวจสอบพบบริเวณที่ห้องด้านหลังบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตถูกเพลิงไหม้จนดำเป็นตะโก 2 ศพ ทราบชื่อนางชูศรี อนุภาพ อายุ 68 ปี และ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายของ น.ส.อังคณา ยืนรํ่าไห้ปานใจจะขาด

น.ส.อังคณา ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า ต้องสูญเสียยายและลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยบ้านนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีนางชูศรี ผู้เป็นยายป่วยนอนติดเตียง มีตนเป็นคนดูแล และ ด.ช.เอ ลูกชายตนเอง ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ยาย โดยปิดประตูห้องเอาเชือกมัดประตูไว้ เพราะกลัวลูกชายออกจากบ้าน ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวมีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าไฟไหม้บ้าน ตนจึงรีบขี่จักรยานยนต์กลับมาดูบ้าน แต่เห็นสภาพไฟลุกท่วมไปไหม้ทั้งหลังแล้ว โดยมีคนทั้งสองติดอยู่ในบ้าน โดยมีนายบุญเรือง อนุภาพ อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ช่วยออกมาไม่ได้จนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งต้องดูทั้งยายและลูกชายถูกไฟคลอกตายคากองเพลิง

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง.