เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่ง สปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) ได้ออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้ว และยอมรับผิด เป็นการแจ้งข่าวสารที่ไม่ได้ระวังถึงผลกระทบที่มีความละเอียดอ่อนที่จะตามมาด้วย

“ธนาคารทหารไทย (ชื่อเดิม) ได้ปิดทำการสาขามาหลายปีแล้ว แต่สำนักงานปกป้องเพิ่งนำมาแจ้งทางการเป็นฉบับเดียว ก็เลยเกิดกระแสหนักมากช่วงนี้ ส่วนธนาคารกรุงเทพ สาขาที่ปากเซ ปิดไปนานแล้ว แต่ที่เวียงจันทน์ยังเปิดปกติ ไม่มีแผนจะปิดด้วย”

ขณะที่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้จากธนาคารกรุงเทพ จะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า มันเป็นหนังสือแจ้งการทยอยปิดสาขาธนาคารไทยใน สปป.ลาว ในหลายปีที่ผ่านมา แต่สำนักงานปกป้องเงินฝากของ สปป.ลาว ก็ได้ออกหนังสือแจ้งการพ้นจากสมาชิกของธนาคารไทยทั้ง 4 แห่ง รวมกันเป็นฉบับเดียว ทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อประชาชนทั้งไทยและลาว

ซึ่งการแถลงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีกระแสข่าวว่าธนาคารของไทย 4 แห่ง ที่เปิดทำการสาขาใน สปป.ลาว ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย (ชื่อเดิม ก่อนควบรวมธนาคารธนชาต) สาขานครหลวงเวียงจันทน์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะหวันนะเขต, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สาขาเวียงจันทน์ และธนาคารกรุงเทพ สาขาปากเซ ได้ทำการยื่นขอปิดกิจการต่อสำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ สปป.ลาว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกของประชาชนว่า เงินของตัวเองในบัญชีจะมีความเสี่ยงอะไรหรือไม่ จากนั้นเมื่อมีการแชร์ข้อความนี้ไปในโลกออนไลน์ ทำให้มีการถูกส่งต่อไปทั่วโซเชียล ยิ่งสร้างความตกใจไปกันใหญ่ กระทั่งแบงก์ชาติลาวมาออกแถลงการณ์สร้างความเชื่อมั่นในครั้งนี้.