ฟิลเลอร์ Juvederm มีกี่รุ่น ?

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นที่นิยมใช้กันอย่างมากในปัจจุบัน มักมีการนำมาใช้ในการปรับรูปหน้า ให้ดี และได้สัดส่วนมากขึ้น ซึ่ง ฟิลเลอร์ Juvederm จะเข้ามาช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกที่เกิดขึ้นบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียน ขึ้นได้ ฟิลเลอร์ Juvederm นั้นก็มีหลากหลายรุ่น หลากหลายแบบมากมาย ในบทความนี้จะเจาะลึกไปที่แต่ละรุ่นว่า juvederm มีกี่รุ่น ให้ทุกคนได้รู้ว่ามีความต่างกันอย่างไรบ้าง ฉีดตัวไหนดี

Hylacross สำหรับคนต้องการเติมเต็มร่องลึก มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่

Juvederm ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา มีหลากหลายรุ่น แต่สำหรับคนที่ต้องการเติมเต็มร่องลึก มี 2 รุ่นด้วยกัน

1. Juvederm รุ่น Ultra XC

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Ultra Plus XC จะจัดอยู่ในกลุ่ม Hylacross Technology คือเนื้อฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม และให้ความฟูมาก สามารถกักเก็บน้ำได้ดี มีความทนต่อการขยับ ทำให้เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะสามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน

Juvederm รุ่น Ultra XC เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย มีร่องลึก มีรอยพับของใบหน้า รอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นบริเวณที่มีการขยับเยอะๆ เช่น บริเวณ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คาง
  • สำหรับใช้ฉีดปาก สำหรับผู้ที่ต้องการให้ปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง
  • สำหรับใช้ฉีดขมับ เ ฉีดแล้วอยู่ได้นาน ไม่เป็นก้อน

2. Juvederm รุ่น Ultra Plus XC

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Ultra XC อยู่ในกลุ่ม Hylacross Technology ตัวฟิลเลอร์รุ่น Ultra XC จะมีเนื้อเจลนิ่ม เมื่อฉีดฟิลเลอร์ตัวนี้แล้ว จะมีความเรียบเนียนไปกับผิว และสามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน

Juvederm รุ่น Ultra Plus XC เหมาะสำหรับ

  • การใช้แก้ปัญหาพวกริ้วรอย และร่องลึกต่างๆ
  • สามารถใช้ฉีดบริเวณ ขมับ แก้มตอบ ริ้วรอย คาง จมูก

Vycross สำหรับคนต้องการยกกระชับ มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

1. Juvederm รุ่น Volux

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volux อยู่ในกลุ่มของ Vycross Technology ถือเป็นรุ่นล่าสุดที่มีความหนาแน่นสูง เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปั้นทรงได้สวย และยังคงรูปได้ดีที่สุดอยู่ได้ถึง 18 เดือน

Juvederm รุ่น Volux เหมาะสำหรับ

  • ใช้ในการเติมใบหน้าให้ขึ้นรูป เช่น ใช้ฉีดขมับ ฉีดกาม ร่องแก้มชั้นลึก ลดความหย่อนคล้อย
  • ใช้ในการฉีดใต้ตา แทนการยุบของกระดูกในผิวชั้นลึก

2. Juvederm รุ่น Voluma

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Voluma จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology จะมีลักษณะเป็นเนื้อแข็ง มีความฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นดี สามารถปั้นได้ง่าย และความหนาแน่นสูง ฉีดแล้วไม่ไหล สามารถอยู่ได้นาน 1 – 2

Juvederm รุ่นVoluma เหมาะสำหรับ

  • ใช้ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ลิฟหน้าแก้ม ร่องแก้มลึก
  • ใช้เติมเต็มส่วนคาง และขมับ ปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น
  • ใช้ฉีดเพื่อแก้ไขใต้ตาที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก

3. Juvederm รุ่น Volift

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift อยู่ในกลุ่ม Vycross Technology มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่มปานกลาง และมีความละเอียด ยืดหยุ่นสูง จึงทำให้ Juvederm Volift เหมาะที่จะฉีดกับคนที่มีผิวบาง ซึ่ง ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift จะมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อน สามารถอยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน

Juvederm รุ่น Volift เหมาะสำหรับ

  • ใช้ฉีดบริเวณร่องแก้มชั้นตื้นๆ ร่องแก้มที่บางมาก
  • ใช้ฉีดร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก ร่องน้ำหมากตื้นๆ
  • ใช้ฉีดบริเวณใต้ตา เติมเต็มใต้ตาให้ดูเต็มขึ้นได้

4. Juvederm รุ่น Volbella

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volbella อยู่ในกลุ่มของ Vycross Technology จะมีลักษณะเป็นเนื้อที่นิ่มที่สุด มีความฟู และยังมีโมเลกุลขนาดเล็กละเอียดมาก มีความเรียบเนียน ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ และฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volbella อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน

Juvederm รุ่น Volbella เหมาะสำหรับ

  • ใช้เป็นฟิลเลอร์เติมหน้าผาก ที่ต้องการให้มีความเรียบเนียน
  • ใช้เติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น
  • ใช้เติมเต็มใต้ตา
  • ใช้แก้ไขริ้วรอยบริเวณปาก

5. Juvederm รุ่น Volite

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volite ถือเป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อละเอียด และที่แตกต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ คือ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ จึงมักเหมาะกับการนำไปใช้ปรับคุณภาพผิว แตกต่างจากรุ่นอื่นที่เน้นปรับรูปหน้า และสามารถอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน

Juvederm รุ่น Voliteเหมาะสำหรับ

  • การใช้เพื่อลดริ้วรอยชั้นตื้นๆ
  • ใช้เพื่อให้ผิวหน้าฟู อิ่มน้ำ ผิวดูสุขภาพดี ปรับสภาพผิว
  • ใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้นได้
  • ใช้ฟื้นฟูผิวปากให้ชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย

สรุปแล้ว juvederm มีกี่รุ่น

เป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกคนคงทราบแล้วว่า juvederm มีกี่รุ่น ซึ่ง Juvederm ที่เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกานั้น มีให้เลือกมากมายหลายประเภทอย่างมาก ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละแบบนั้นก็มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไปด้วย ควรต้องเลือกให้เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า ซึ่งควรเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ และฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ แต่วิธีการฉีดให้สวยได้นั้น ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้แนะนำ