เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีทั้ง 11 สำนวน (ศาลรวมการพิจารณาเป็น 5 สำนวน)
1 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 73,70,220/2565
2 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 154,183/2565
3 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 153,195/2565
4 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 181/2565, 52/2566
5คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 215/2565 ,53/2566
คดีทั้ง 5 สำนวนนี้ สรุปข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาได้ว่า บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จํากัด และบริษัทเดอะแกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จํากัด โดยนายยิ่ง (สงวนนามสกุล) นางสาวบุณฑริการ์ (สงวนนามสกุล) และ นายอินทระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือบอย ยูนิตี้ หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนทั้งสองบริษัทดังกล่าว ขณะเกิดเหตุ บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จํากัด มอบอำนาจให้ตัวแทนในการนำเข้าสินค้าสำแดงรายการสินค้าที่นำเข้า เป็นรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นแกลลาโด้ แอลพี 560-4 โดยในความเป็นจริงสินค้าที่นำเข้าเป็นรถยนต์ ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 อันเป็นการสำแดงการนำเข้าเท็จเพื่อให้เสียภาษีน้อยกว่า ที่ควรต้องเสีย อันเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีเนื่องจากรถยนต์รุ่นที่นำเข้าจริงมีราคาสูงกว่ารถยนต์รุ่นที่ สำแดงในใบขนสินค้า ภายหลังเมื่อมีการตรวจปล่อยรถยนต์ไปจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจปล่อยแล้ว ต่อมา มีการนํารถยนต์ไปขอจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบกโดยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารที่เป็น ใบขนสินค้าและใบรับรองการนำเข้า (แบบ 32) ให้เป็นรถยนต์รุ่นที่นำเข้ามาจริง การกระทำของบริษัท ออสติน ออโต้ คาร์ส จํากัด และบริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จํากัด ซึ่งมีนายยิ่ง นางสาวบุณฑริการ์ และนายอินทระศักดิ์ ในแต่ละสำนวนนั้นเป็นการร่วมกันกระทำ ความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244,253 และพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 165 พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา208
เป็นการกระทํากรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากรซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ส่วน 2 เจ้าพนักงานศุลกากร ผู้มีหน้าที่ตรวจปล่อยรถยนต์แต่ละคันตามฟ้องที่บริษัทรถยนต์นำเข้า มอบอำนาจให้ตัวแทนนำเข้ามานั้น ทั้งสองคนมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจปล่อยตามระเบียบปฏิบัติที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ ทั้งยังกรอก ข้อความไม่ครบถ้วนในใบรับรองการนำเข้า (แบบ 32) ที่ผู้นำเข้าจะใช้เป็นหลักฐานในการขอจดทะเบียนรถยนต์ที่นําเข้าต่อกรมการขนส่งทางบก กับมีการตรวจปล่อยรถไปโดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ ตรวจปล่อยร่วมกับหน่วยงานศุลกากรที่ได้รับมอบหมาย เป็นเหตุกรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีอากรได้น้อย กว่าที่ควรจะเป็นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154(เดิม), 157 (เดิม), 162(1)(3)(4) (เดิม) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 154 (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด
สรุปโทษตามคําพิพากษา
คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 73,70,220/2565 จำเลยที่ 1 บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด ให้ปรับ 32,443,914.68บาท จำเลยที่ 2 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ32,443,914.68บาท จำเลยที่ 3 นายยิ่ง ให้จำคุก 6 ปี จําเลยที่ 4 น.ส.บุณฑริการ์ ให้จำคุก 6ปี จำเลยที่ 5 น.ส.รัญชยา ให้ยกฟ้อง จําเลยที่ 6 นายอุกฤษณ์ ให้จําคุก 4ปีจำเลยที่ 7 นายอินทระศักดิ์ ให้จำคุก 6ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 154,183/2565 จำเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ58,336,532.88 บาท จำเลยที่ 2 นายยิ่ง ให้จำคุก 6 ปี จำเลยที่ 3 น.ส.บุณฑริการ์ จำหน่ายคดีชั่วคราว (หลบหนีก่อนให้การ) จําเลยที่ 4 นายอุกฤษณ์ ให้จําคุก 4 ปี จำเลยที่ 5 นายอินทระศักดิ์ ให้จำคุก 6 ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 153,195/2565 จําเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ53,725,691.06บาท จำเลยที่ 2 น.ส.บุณฑริการ์ (หมายจับ) จําเลยที่ 3 นายไพฤทธิ์ ให้จําคุก 4ปี จำเลยที่ 4 นายอินทระศักดิ์ ให้จำคุก 6 ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 181/2565, 52/2566 จำเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 63,133,622.22 บาท จำเลยที่ 2 นายยิ่ง ให้จำคุก 6 ปี จำเลยที่ 3 น.ส.บุณฑริการ์ (ไม่รับฟ้อง) จำเลยที่ 4 นายอุกฤษณ์ ให้จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 5 นายอินทระศักดิ์ ให้จำคุก 6ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 215/2565 ,53/2566 จำเลยที่ 1 นายอินทระศักดิ์ ให้จำคุก 6 ปีจำเลยที่ 2 นายไพฤทธิ์ ให้จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 3 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัดให้ปรับ61,506,556.02 บาท
ทุกสำนวนศาลมีคำสั่งให้ริบรถยนต์ของกลาง จ่ายสินบนและเงินรางวัลตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าว สรุปโทษทั้งหมด เมื่อรวมทุกสำนวนดังนี้
บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด ถูกลงโทษปรับทั้งหมด 32,443,914.68บาท
บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ถูกลงโทษปรับทั้งหมด 269,146,316.86 บาท
นายอินทระศักดิ์ รวมโทษจำคุกทั้งหมด 30 ปี (บอย ยูนิตี้)
นายยิ่ง รวมโทษจำคุกทั้งหมด 18 ปี
นายอุกฤษณ์ รวมโทษจำคุกทั้งหมด 12 ปี
นายไพฤทธิ์ รวมโทษจำคุกทั้งหมด 8 ปี
น.ส.บุณฑริการ์ จำคุก6ปี (หลบหนี-หมายจับ)