เรียกว่าเป็นปีแห่งความดำดิ่งลุ้นรายได้จนหืดจับเสียเหลือเกิน สำหรับค่ายดัง “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส” ที่ส่งหนังซูเปอร์ฮีโร่เอาใจแฟน DC ไป 2 เรื่องแต่ก็ยังทำรายได้ไม่เข้าเป้าไม่ว่าจะเป็น “Shazam! Fury of the Gods” (ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า) หรือแม้แต่ “The Flash” (เดอะแฟลช) ที่เพิ่งฉายไปกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนมาช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ทางค่ายก็ยังต้องรอลุ้นหนังอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ BlueBeetle (บลู บีเทิล) ฮีโร่ผู้มีพลังเทคโนโลยีชีวภาพสุดแกร่ง จะว่าไปฮีโร่ตัวนี้เดิมทีถือกำเหนิดมาในยุคแรก ๆ ของ DC ก็ว่าได้ ก่อนจะมีการจับมาปัดฝุ่นดัดแปลงเรื่องราวขึ้นใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยลาสุด ผู้กำกับหนังแนวไซไฟอย่าง “แอนเจิ้ล มานูเอล โซโต” ก็ยังไงคว้าตัว พระเอกหนุ่ม “โซโล มาริดูเอญา” ที่จะมารับบท “ไฮเม่ เรเยส” ตัวเอกของเรื่องนี้ด้วย
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ไฮเม่ เรเยส” หนุ่มวัยรุ่นไฟแรงเพิ่งเรียนจบ ออกหางานทำในเมืองใหญ่ หวังจะสู้ชีวิตเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงดูครอบครัว แต่กลับปรากฏว่าชีวิตดันสู้กลับ เมื่อเขาดันเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาวุธจากพลังเทคโนโลยีชีวภาพที่อยู่ในวัตถุโบราณประหลาดที่ชื่อ “สกาแรบ” ซึ่งจู่ ๆ มันก็ตื่นมาโดยเลือกผู้ครอบครองพลังของมันเอง โดยที่ตัวมันเข้าไปรวมอยู่ในร่างกายของเด็กหนุ่มชนิดถึงดีเอ็นเอ ความทราบไปถึง “วิคตอเรีย คอร์ด” เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ต้องการครอบครองพลังของ “สกาแรบ” จึงพยายามช่วงชิงเอาพลังสุดแกร่งนี้มาจากเด็กหนุ่มให้จงได้ การตามล่าจึงได้เริ่มต้นขึ้น…ท้ายที่สุดเรื่องราวจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
จุดแข็งของ BlueBeetle บลู บีเทิล
เป็นหนังฮีโร่ที่มีการเรียบเรียงเรื่องได้กระชับแบ่งนำหนักตัวละครได้ดี เป็น 2 ชม.ที่เต็มอิ่มไปด้วยอารมณ์ความฮา แม้บทของพระเอกจะดูเยอะเหมือนเป็นตัวแบก แต่ความจริงแล้วก็มีหลายซีนที่ไม่มีพระเอกอยู่แล้วสร้างความครื้นเครงให้ผู้ชมได้ง่าย ๆ การยิงมุกตลกของหนังจะใช้ภาษา “เม็กซิโก” เข้ามาขั้นก่อนขโมยซีนปั้นหน้าเป็น เป็นจังหวะฮุคที่แจ่มสุด ๆ ในส่วนของโปรดักส์ชั่นและ CG ระดับ DC แล้วไม่ต้องว่าอะไรกันมากมาย ไปพิสูจน์ความเดือดความสวยงามของฉากต่อสู้ด้วยสายตาตัวเอง แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่ายิงลำแสงแต่ละที ก็อาจจะแสบตาสักหน่อย
จุดอ่อน BlueBeetle บลู บีเทิล
พล็อตเรื่องทำออกมาให้ดูว่าพลังของครอบครัวนั้นจะชนะทุกสิ่ง อันนี้ไม่เถียง เพียงแต่ครอบครับนี้ ดูเหมือนจะมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย แล้วหนังไม่ได้บอกเล่าไปซะทุกอย่าง บางช่วงบางตอนญาติพระเอกก็เก่งขึ้นมาดื้อ ๆ ซึ่งถ้าผู้ชมมองผ่านก็คงไม่เป็นไร แต่หากมองดูลึก ๆ มันมีความไม่สมเหตุสมผลมีแฝงอยู่เต็มไปหมด แต่ก็อย่าว่า เพราะนี่หนัง “ฮีโร่” จะทำอะไรก็ต้องโอเวอร์ไว้ก่อนเพื่อความสนุก เรื่องสาระไม่ต้องมี เอาโม้เข้ามาโชว์ล้วน ๆ ซึ่งเราไม่ว่ากัน เพียงแต่ ณ จุดนี้..ต้องบอกเลยว่า มันดูจบง่ายไปหน่อย
4/5 กะโหลก สำหรับภาพยนตร์คุณภาพจาก “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส” ที่ทำมาเพื่อให้เด็กได้ดูล้วน ๆ เพราะแม้จะโชว์ฉากต่อสู้เดือด ๆ หลายฉาก รวมทั้งโชว์ความสยองบางซีน แต่กลับมองไม่เห็นเลือดสักหยด ดูไปดูมาก็อดคิดไม่ได้เลยว่า…นี่มันหนังยอดมนุษย์ซูเปอร์เซ็นไต…แบบฉบับเม็กซิโกหรือเปล่านะ
———————————————–
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Warner Bros.